หน้าเว็บ

01 พฤศจิกายน 2554

165 | My Anniversary

28 ปีแล้วนะเรา...อยู่มานานเกินไปรึเปล่า 55555

07 ตุลาคม 2554

164 | Double Rainbow





ถ่ายจากหน้า ม.ราชภัฏครับ

163 | R.I.P. Steve Jobs



ผมรู้จัก Steve Jobs ครั้งแรก ในหนังสือ "โคตรเขี้ยว" ชีวประวัติของ Bill Gates ทำให้รู้ว่าผู้ชายคนนี้แปลกประหลาดมาก

ผมรู้จัก Steve Jobs อีกครั้งในภาพยนตร์ "Pirates of Silicon Valley" ทำให้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ "แรง" มาก

ผมรู้จัก Steve Jobs มากขึ้นจากหนังสือ "iCon" ที่ทำให้เข้าใจได้ว่า สิ่งพิเศษที่เกิดขึ้นจากผู้ชายคนนี้ ไม่ได้เป็นพรสวรรค์ หรืออะไรทำนองนั้น แต่เป็นสิ่งที่เขา "สร้าง" ขึ้นมา

Steve Jobs เป็นคนที่ไม่เหมือนคนอื่น พลังที่เขามี สิ่งที่เขาเชื่อ ทำให้อะไรหลายๆ อย่างในโลกนี้เปลี่ยนไป

Steve Jobs ไม่ได้เป็นแค่ผู้ทรงอิทธิพลในโลกไอที แต่เขาเป็น "นวัตกรรม"

และวันนี้ ไม่มี Steve Jobs อีกแล้ว....ผมใจหายครับ



Rest in Peace, Steve Jobs คุณคือสุดยอดสำหรับผม.

14 กันยายน 2554

162 | อัพเดทน้ำท่วม

วันนี้มีรถประกาศของเทศบาลออกเตือนให้ชาวตลาดเตรียมขนของระวังน้ำท่วม แล้วก็มีการแปลงสารกันยังไงไม่รู้กลายเป็นว่าน้ำเข้าตลาดแน่ๆ บางข่าวว่ากันเป็นกำหนดเวลาแน่นอนว่ากี่โมงๆ เข้าแน่นอน

ก็แตกตื่นกันครับ รถขนของหนีน้ำกันวุ่นทั้งวัน ห้างร้านก็เตรียมก่อถุงทราย โบกอิฐบล็อกกัน ใครๆ ก็ไม่อยากให้มันท่วมครับ เดือดร้อนเสียหายกันไม่ใช่น้อย

แล้วก็ได้เห็นความจริงของคนหลายอย่างครับ มีทั้งคนที่ออกมาดูน้ำแล้วทำท่าจะร้องไห้เพราะถ้าน้ำข้ามมาเมื่อไรบ้านเขาต้องโดนเป็นหลังแรกๆ แล้วก็คนที่มาดูน้ำท่วมเป็นเรื่องสนุกว่า ท่วมซะได้ก็ดียังไงก็ไม่เดือดร้อนถึงบ้านฉันอยู่แล้ว สองคนนี้ยืนติดกันบนที่เดียวกันแท้ๆ แต่มองกันไปคนละเรื่อง

ได้เห็นเจ้ากรมข่าวลือที่ยืนบอกคนโน้นคนนี้ว่า ตัวเองมาดูทั้งวัน น้ำขึ้นชั่วโมงละ 3 ซม.เชียวนะ...ถ้านับเฉพาะเช้ายันค่ำก็ตีไปสัก 10 ชั่วโมง 10*3 = 30 ซม. ป่านนี้มันเข้าตลาดมาถึงน่องแล้วมั้งครับ ที่สำคัญคนฟังก็เชื่อเป็นตุเป็นตะ บอกต่อไปอีกแน่ะ

ได้เห็นไอ้พวกแว้นบ้าๆ ที่คิดว่ามันเท่นักหนาตอนขี่รถกากๆ ของมันป่ายไปมาด้วยความเร็วมากบนกองดินที่เทศบาลเอามาถมน้ำท่วม วิ่งผ่านน้ำขังถนนน้ำกระจายใส่อาม่าอาซิ้มที่เดินกระย่องกระแย่งอยู่ข้างทางเปียกซะ...จิตสำนึกมันหายไปไหนหมดแล้วถึงได้กล้าทำอะไรระยำให้คนเขาด่าถึงโคตรได้ปานนี้

ไม่ว่าจะไปดูน้ำจุดไหน เราจะได้เห็นคนตกปลา ที่ตั้งแต่ดูมาเคยเห็นตกปลาใหญ่ได้คนเดียว ตัวเดียว นอกนั้นก็ตกปลาเล็กเท่าไฟแช็คได้บ้าง ฝนตกแค่ไหนก็ไม่ยอมถอย

คืนนี้เป็นอีกคืนที่ผมนอนไม่ค่อยจะหลับครับ

13 กันยายน 2554

161 | Test Blogger App for iOS: River Flood Topic

This Entry write on my iPhone using Blogger App. I waiting for this Official App so long !!

Tonight, I can't sleep like other day because I seriously think about River flood in my hometown. My Grandma's house was under water more than 15 days. I'm worry about it, too. That place is very important for me and our family. My old school memory still live in that place...

This night, I took some photo that present some fact about this desaster. I select one of all and upload it to Social Network (such as Facebook and Twitter). I can't understand why someone think this desaster is a funny story !? Maybe they never know..Victims, they ever had a house, car, or some most valuable thing for them. But now they lost everything..I beg you, please think if you are victim like another guys I said. Did you think about that...


08 กันยายน 2554

160 | Copy VALUE Variable ใน PSPP

(Entry นี้เขียนบน Ubuntu 11.04 อาจตกสระหรือวรรณยุกต์ไปบ้างต้องขออภัยขี้เกียจตรวจทาน)

ดอง Blog มาตั้งนานเพราะไม่มีอะไรอยากเขียน จนเมื่อกี้ได้ทำอะไรสำเร็จไปอย่างนึงดีใจจนน้ำตาไหลเลยต้องมาจดบันทึกไว้หน่อย มันเกี่ยวกับ PSPP ครับ


คือหลังจากที่ได้ลองใช้ PSPP มาหลายงาน (เนื่องจากพยายามหลีกเลี่ยง SPSS) ก็พบว่าปัญหาที่น่าเศร้าที่สุดก็คือไม่สามารถ Copy ค่าใน VALUE ในส่วนของ Variable View ได้ !!??

ไม่แน่ใจว่า SPSS ทำได้หรือเปล่าเพราะยังไม่ได้ลองก็เลิกใช้ไปเสียก่อน คือถ้ามีตัวแปรลักษณะเดียวกันเยอะๆ แล้วเนี่ย ไอ้การจะมานั่งพิมพ์ คลิก แล้วก็พิมพ์คลิกๆ ข้อความ 1 คือ น้อยสุด 2 คือ น้อย .. Blah Blah ... จน 5 คือ มากที่สุด ไปทุกตัวแปรนี่มันเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยอยู่ ถ้าตัวแปรสัก 10-20 ตัวนี่ยังพอทน แต่เจอแบบ 50+ นี้ไม่ไหวแน่ !! แล้วจะทำยังไงดีวะ

ด้วยความที่ไม่เคยศึกษาโปรแกรมแนวนี้มาก่อนเลย (เป็นแต่ดูชาวบ้านทำแล้วจำมา) ก็เพิ่งรู้ว่า PSPP มันทำงานใน Command Line Mode ได้ด้วย แล้วก็บังเอิญไปคลำๆ หาวิธีใช้จนทำการ Copy VALUE ได้สำเร็จผ่าน Command นี่แหละ !!! โอ้วเ่ท่เป็นบ้าเลย

ขั้นตอนมีดังนี้คือ

1. เปิด Terminal มาก่อน เรียกใช้งาน PSPP โดยใช้คำสั่ง

dew@ubuntu:~$ pspp

2. เปิดไฟล์ที่ทำมา (แต่ยังทำไม่เสร็จเพราะ Copy ไม่ได้นั่นแหละ)

PSPP > get file='/home/dew/dewpspp.sav'.

3. คราวนี้ใช้คำสั่งเพิ่ม VALUE ให้กับตัวแปรทีละหลายๆ ตัวที่มี VALUE เหมือนกันเลยครับ สมมุติว่าตัวแปรชื่อ no1 ถึง no80 (คือมี 80 ตัวแปร) และต้องการให้มี VALUE แบบลิเคอร์ทที่เขาทำกันทั่วๆ ไปละกัน

PSPP > add value label no1 to no80 1'less' 2'low' 3'medium' 4'more' 5'most'.

(ตีความว่า 1 คือ พึงพอใจน้อยสุด ไปจนถึง 5 คือ พึงพอใจมากที่สุด ละกันนะครับ PSPP มันไม่รับภาษาไทยก็เอาแบบเข้าใจกันเองละกัน)

4. เสร็จครับ Save ได้

PSPP > save outfile='/home/dew/dewpspp.sav'

เป็นอันจบสิ้น

ต้นทางของการแกะรอยในครั้งนี้มาจากรูป ScreenShot อันนี้ในหน้าเว็บของ PSPP ครับ


แน่นอนหากท่านอ่านแล้วพบว่า..เฮ้ยมันไม่ได้เป็นการ Copy VALUE นี่หว่า แน่นอนครับมันคือการสั่งให้ตัวแปรหลายๆ ตัวใช้ VALUE ที่เรากำหนดโดยการสั่งเพียงครั้งเดียวต่างหาก แต่ผมว่าส่วนใหญ่ถ้าคนที่ใช้ PSPP แล้วเจอปัญหาแบบผมทีแรก ก็น่าจะ Search ใน Google โดยใช้ Keyword ประมาณว่า "PSPP Copy Value Variable" หรืออะไรทำนองนี้แหงๆ และถ้าโชคดี Blog นี้อาจจะได้ขึ้นในผลการค้นหาอันแรกๆ แล้วผมก็หวังว่าบทความนี้น่าจะช่วยแก้ปัญหาให้ท่านๆ ได้บ้างอย่างแน่นอนครับ

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จาก Manual ครับ http://www.gnu.org/software/pspp/manual/html_node/index.html





ดีใจจัง Entry ฉลอง 160 บทความก็เป็นเรื่องมีสาระได้ 555555

30 มิถุนายน 2554

159 | Draft 'til Done : ปกหนังสือ 4000113

ตั้งใจว่าจะเขียนตั้งแต่วันแรกที่ของมาส่งแล้วครับ แต่ก็ลืมมาจนถึงวันนี้เลย 555555

คือที่สาขาฯ ปรับปรุงหลักสูตรวิชาคอมพิวเตอร์พื้นฐานใหม่ครับ ก็เลยต้องทำหนังสือเรียนกันใหม่
แล้วผมก็ได้รับมอบหมายให้ทำปกอีกครั้งครับ

มาคราวนี้มุขตันไม่รู้จะเอาอะไรมาใส่ดี จะพึ่ง Google Image Search บ่อยๆ ก็ชักรู้สึกผิด ไปๆ มาๆ ก็คิดขึ้นมาเฉยเลยว่า "ทำเองแม่-งเลยดีกว่าไม่ต้องหารูปหาลายไรและ" คิดได้ดังนั้นภาพมันก็ลอยมาในหัวเลยครับ

ตอนที่ทำปกนี้เป็นช่วงสอนภาคฤดูร้อน (ประมาณเมษา-พฤษภาโน่น) ผมสอน นศ.สาขาวิชาเคมี (เอกคู่ขนาน) ก็เลยต้องขอความร่วมมือจากเด็กๆ เหล่านี้เพราะไม่รู้จะไปหาตัวคนอื่นมาจากไหนได้อีก แล้วก็ชวน อจ.โอม กับ อจ.แรก ไปช่วยกันถ่ายด้วยกล้องเทพของทั้งสองท่านครับ


ตากล้องของเรากำลังทำงาน

ได้ภาพสวยๆ กันไปแล้วก็เข้าสู่กระบวนการผลิตครับ คราวนี้ก็ใช้โปรแกรม Adobe Fireworks CS3 เหมือนเดิม Font ที่ใช้ก็มี ภาษาไทยใช้ TH Saraban PSK และภาษาอังกฤษใช้ Ubuntu Beta ครับ


ภาพต้นฉบับที่ทำใน Adobe Fireworks CS3

ลองพิจารณาเล่มจริงประกอบครับ จะเห็นว่าสีเพี้ยนมาก


สีเขียวแบบสดใสวัยรุ่นกลายเป็นสีเขียวแบบทหารเจนศึก T_T

อีกอย่างคือพบว่าทางร้านไม่ได้ Crop ภาพให้ เวลาผมส่งภาพไปทำปกทุกครั้งต้องทำขนาดให้ใหญ่กว่าขนาดหนังสืออยู่พอสมควร แล้วทางร้านเขาจะเอาไปตัดขอบทั้ง 4 ด้านออกให้พอดีเอง แต่มาคราวนี้ร้านแกเกิดมึนอะไรขึ้นมาไม่ทราบ ทำหนังสือมาขนาดเท่าปกเด๊ะเลย ดังนั้นเล่มมันก็เลยใหญ่ๆ ผิดขนาดไปซะยังงั้นครับ...เซงโคตร


เทียบกับปก 4000103 เล่มพิมพ์ครั้งที่ 1 กับ 3

ที่เด็ดสุดคือ ปกหนังสือรอบนี้ตกวรรณยุกต์ไปเกือบหมดเลยครับ เชื่อคำว่า เพื่อ ก็กลายเป็น เพือ ไปซะยังงั้น จริงๆ คือมันผิดที่ผมเองแหละครับที่ส่งไฟล์ให้เขาไปโดยที่ยังไม่ได้ Convert to Path

ปกหนังสือเล่มนี้เลยกลายเป็นเล่มที่:
- ภูมิใจสุด เพราะว่าปกทำเองทุกกระบวนการ ไม่ได้ก๊อปรูปจากไหนมา
- อับอายสุด เพราะพิมพ์ผิด แถมสีตุ่นไม่ตรงกับต้นฉบับ

17 พฤษภาคม 2554

158 | เช้าวันนี้กับ 10 ปีต่อมา

เช้าวันนี้บ้านผมชงกาแฟ 3 แก้วครับ

คิดถูกแล้วจริงๆ ที่ยอมอดนอนเมื่อคืนเพื่อไปทำบุญวันวิสาขบูชาตอนเช้า ผมระลึกได้ว่า มันเป็นกิจกรรมในครอบครัวที่ผมไม่ได้สัมผัสมานานเกือบ 10 ปีแล้ว นับตั้งแต่เข้ามหาลัย

ช่วงเรียน ผมต้องตื่นเช้าไป ม. ไม่เคยได้มีเวลาได้ทานข้าวที่บ้านเหมือนตอนเรียนประถมหรือมัธยม จบมาแล้วทำงานก็ยังเหมือนเดิม คือต้องออกไปทำงานตั้งแต่เช้า หรือถ้าวันไหนไปสายได้ก็ไม่เคยได้ทานข้าวที่บ้านเลย

สำหรับผมแล้ว มื้อเช้าที่บ้านตัวเองเป็นมื้ออาหารที่ผมไม่ได้สัมผัสมานานที่สุด ยิ่งกว่ามื้อหรูๆ ในภัตตาคารใดๆ

วันนี้เราสามคนพ่อแม่ลูก ทำบุญที่วัดเสร็จแล้ว ก็กลับมาทานข้าวเช้าพร้อมหน้ากันที่บ้าน ผมออกไปซื้อกับข้าวที่หน้าตลาดวัดโพธิ์กับแม่ พ่อเตรียมจัดโต๊ะ ตักข้าวรอ

แล้วพ่อก็ถามว่า "เอากาแฟมั้ย ?" พ่อคงรู้ว่าผมเบลอจากการอดนอนเมื่อคืน

ผมรับอาสาชงกาแฟให้ แล้วผมก็พบความประหลาดใจในสิ่งหนึ่ง...

ผมจำไม่ได้แล้ว ว่ากาแฟของแม่กับพ่อ ใส่กาแฟกี่ช้อน ใส่น้ำตาลกี่ช้อน ใส่ครีมเทียมหรือนมข้นหวาน ทั้งๆ ที่มันเป็นภาพที่ผมเห็นจนชินตาตั้งแต่เราสามคนทานข้าวเช้าพร้อมกันด้วยกับข้าวฝีมือแม่ ก่อนที่พ่อจะส่งผมไปโรงเรียน ตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.6

10 ปี...ช่างเป็นเวลาที่นานแสนนานเหลือเกิน นานจนเราลืมสิ่งที่เราเคยทำเป็นประจำตั้งแต่เล็กจนโตไปเสียได้



พ่อหยิบนมข้นหวานในตู้เย็นมาส่งให้ผม แม้ว่าพ่อจะไม่ได้พูดอะไร แต่ผมกลับสะอึกอยู่ข้างในใจ...

...พ่อยังจำได้ว่าผมทานกาแฟใส่นมข้นหวาน



วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิตครับ มีความสุขที่ได้รู้สึกตัว

...ก่อนที่จะลืมสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตไปกับเวลาที่หวนย้อนคืนมาไม่ได้อีก

กาแฟวันนี้ อบอุ่นเป็นที่สุดครับ.

11 พฤษภาคม 2554

157 | Find My iPhone !!!

เคยเขียน Blog ครั้งแรกถึง iPhone ตอนที่เข้าไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก กับ iPhone 3G by Truemove ตั้งแต่ต้นปี 2552 จนถึงวันนี้ 2 ปีผ่านไป....

ผมมี iPhone ใช้แล้วครับ !!!

บางคนอาจจะคิดว่าผมบ้า แต่ความจริงแล้ว iPhone เป็นโคตรโทรศัพท์ในตำนานที่เชื่อว่าใครๆ ก็อยากได้ เมื่อก่อนผมเคยตั้งแง่กับ Apple Inc. มาก เพราะเห็นว่าเป็นบริษัทที่ขายของแพงแม่-งทุกอย่าง เคยคิดถึงขนาดว่าพวกที่ใช้แบรนด์นี้นี่ มีเงินอย่างเดียวคงไม่พอ 555555555

แล้วมันก็ทำให้ผมเข้าใจถึงคำว่า "สมราคา" เมื่อครั้งที่สินค้า Apple ชิ้นแรกเข้ามาอยู่ในบ้านผม นั่นก็คือ iPod Touch 4


ราคา 7,990 กับความจุ 8 GB ทำให้ผมคิดมากพอสมควร แต่พอได้มาใช้แล้วก็ยอมรับเลยครับว่า มันสมราคาจริงๆ ทั้ง Hardware และ Software (ความรู้สึกแรกตอนจับ iOS คือ "มันมี OS ที่ใช้ง่ายขนาดนี้ด้วยเหรอ !!??") ถึงจะเจ็บใจพอสมควรแต่ผมรู้สึกเลยว่า ทั้งคุณภาพของ App และ OS มันทำให้มองว่า iOS เหนือกว่า Android อย่างชัดเจน (ความรู้สึกเหมือนเอา Windows ไปเปรียบเทียบกับ Linux ยุคแรกๆ ยังงั้นเลย)

จนกระทั่งมาถึงวันที่ผมต้องตัดสินใจเลือกโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่มาใช้แทน Samsung Galaxy Spica ที่กำลังจะหมดอายุขัยไปด้วยวัยอันสมควรแล้ว ผมกลับมาพิจารณาตัวเลือกระหว่าง iOS และ Android อีกครั้ง

เปรียบเทียบ iOS กับ Android ในความเห็นส่วนตัว

Android
สิ่งที่ผมไม่ชอบ : Hardware Fragment มาก ซื้อมาไม่กี่เดือนตกรุ่น
สิ่งที่ผมรับไม่ได้ !! : Stock Android อัพเดท แต่ Vendor ไม่สน ลูกค้าต้องไปหา Custom ROM เอาตามมีตามเกิด

iOS
สิ่งที่ผมไม่ชอบ : App ดีๆ ส่วนใหญ่ต้องเสียตังซื้อ คนไม่มีบัตรเครดิตก็คงต้องแสวงหาวิธีซื้อกันเอาตามอัตภาพ
สิ่งที่ผมรับไม่ได้ !! : แพงมาก

เปรียบเทียบกันแล้ว สิ่งที่ไม่ชอบของ Android แก้ปัญหายาก เพราะจะมาตามเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ๆ ก็ไม่ไหว (จำได้ว่าตอนเปิดตัว Android ใหม่ๆ พวกเราดีใจมากเพราะเชื่อว่าราคามือถือจะต้องถูกลงเพราะมี OS ที่เป็น Open Source ให้เลือกใช้ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันผิดคาด รุ่นถูกกับรุ่นแพง EcoSystem ไม่เท่าเทียมกันเอาซะเลย) ส่วนสิ่งที่รับไม่ได้ก็คือเรื่องที่เราตามข่าวกันอยู่ว่า Android รุ่นใหม่ออกมาโครมๆ นับจากวันแรกที่ผมซื้อ Spica มา มันเป็น 1.6 พร้อมอัพเป็น 2.1 จนถึงวันนี้ Android ไป 2.3 แล้ว (2.4 เพิ่งจะ Preview คร่าวๆ กันเมื่อวานใน Google I/O 2011) แต่ Spica ของผมกลับเหมือนต้องหยุดเวลาไว้แค่ 2.1 เท่านั้น โชคดีเล็กๆ คือเรามี http://samdroid.net ที่เป็น Dev Community อยู่ แต่ก็อย่างว่าละครับ Custom ROM นั่นก็หมายถึงว่าเราต้องยอมรับปัญหาความไม่สมบูรณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วย (ผมเคยบ่นไว้ใน Entry นี้)

มาเปรียบเทียบกับ iOS ปัญหาเรื่องราคา App จะว่าไปก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากมายครับ App ดีๆ ราคาไม่ถึง 40 บาท ไม่หนักหนาเกินกำลังจ่ายอยู่แล้วครับ (นักพัฒนาย่อมเข้าใจปัญหาเงินๆ ทองๆ พอกัน) แต่ตอนนี้ยังไม่มีบัตรเครดิต ไม่รู้จะซื้อ App ยังไง ช่องทางอื่นๆ อย่าง iTunes Gift หรือฝากซื้อ App ตามเว็บ ก็ถือว่าสะดวกนะครับ....แต่สะดวกน้อยกว่า JailBreak เยอะ !!

สุดท้ายก็มาที่เรื่องราคา สินค้า Apple นี่ก็ดีอย่างตรงที่ราคาไม่ลงตลอด Gen ครับ เข้าแถวซื้อวันแรกหรือจะซื้อตอนของล้นตลาดก็ราคาเดียวกัน แต่มัน แพง นี่สิ....ทำอกทำใจเรื่องเงินไปแล้วเมื่อเทียบกับ EcoSystem ที่จะได้รับ และอายุการใช้งานที่คงจะอยู่ได้นานเพราะไม่มีปัญหา Fragment แล้ว

...ผมตัดสินใจซื้อครับ

iPhone 4 Black 16 GB ศูนย์ DTAC พร้อมโปร iPhone M 580 บาท/เดือน
รวม 22,096 บาท


หวังว่าเราจะอยู่กันไปอีกนานๆ นะจ๊ะ :)

02 พฤษภาคม 2554

156 | Update Problem in Ubuntu 11.04

เพิ่งลง Ubuntu 11.04 (Natty Narwhal) แล้วมีปัญหา Update Package ไม่ได้ (ทั้ง Update Manager ทั้ง Ubuntu Software Center และ apt-get) ปวดหัวมากไม่รู้จะทำยังไง เพราะว่า WiFi ที่มหาลัยมีปัญหาว่า Firefox 4 มันมีปัญหากับ Certificates ก็จะ Crash ตลอด ก็เลยพยายามจะลง Chrome แต่ก็ลงไม่ได้สักที มันฟ้องว่า :

E: Encountered a section with no Package: header
E: Problem with MergeList /var/lib/apt/lists/บลาๆๆๆๆ
สุดท้ายไป Search เจอวิธีแก้ดังนี้ครับ

sudo mv /var/lib/apt/lists /var/lib/apt/lists-old
sudo mkdir -p /var/lib/apt/lists/partial
sudo apt-get update


ที่มา : Ubuntuclub Forums ซึ่งก็บอกว่าเจอมาจาก ที่นี่ อีกที

ตอนนี้กำลังพยายามทำความเข้าใจกับ Unity อยู่ครับ เหมือนจะใช้ง่าย แต่คงยังไม่ชินละมั้ง

แถม : Review Ubuntu 11.04 Natty Narwhal จาก Blognone ครับ

21 เมษายน 2554

155 | Add Contacts to Gmail

เพิ่งได้รับมอบหมายให้ทำการ Add E-Mail ของบุคคลเป็นจำนวนมากครับ

ปกติก็ไม่เคยมีกิจธุระอะไรที่ต้องส่งเมลหาคนเยอะๆ อยู่แล้ว ก็เลยไม่เคยลองทำเป็นกิจจะลักษณะ มาวันนี้จำเป็นต้องลองแล้ว ก็เลยคิดว่า มันน่าจะมีวิธี Add Contacts ทีละเยอะๆ อยู่ แล้วก็มีจริงๆ ครับ นั่นก็คือ Import จากไฟล์ CSV แต่ทว่าไฟล์ที่รับมานั้นเป็นไฟล์ DOC ครับ งึมมมมมม.....ทำไงดี

ลองผิดลองถูกตั้งนานจนสำเร็จครับ จริงๆ แล้วขั้นตอนไม่มีอะไรมากเลย (โคตรง่ายเลยดีกว่า) เลยต้องมาขอจดบันทึกไว้ซะหน่อย ขั้นตอนมีดังนี้ครับ

1. เพื่อความง่ายในการจัดการ Contact เราสร้าง Group ใหม่ขึ้นมาก่อนเลยครับ (Contacts > New Group...)


2. พอได้ Group แล้ว มาดูที่ปุ่มต่างๆ ด้านบน (ในตอนนี้ยังไม่มี Contact เลยสักชื่อใน Group นี้) ให้กดปุ่ม Add to "ชื่อ Group" จะมี TextField โผล่ออกมาครับ


3. แล้วก็พิมพ์ลงไปได้เลยครับ รูปแบบก็คือ ถ้าต้องการให้มีทั้งชื่อและ E-mail ให้ใส่แบบนี้ครับ

"ชื่อ"<อีเมล>
เช่น
"Chayan Nuntawong"<อีเมลของ Chayan>

ถ้ามีหลายชื่อให้คั่นแต่ละชุดของ Contact แต่ละคนด้วยเครื่องหมาย , ครับ


แล้วเราก็ทำแบบนี้ไปจนกว่าจะครบจำนวนที่ต้องการครับ ง่ายจัง !!

วิธีการ Add แบบนี้ไม่มีใน Help ของ Gmail นะครับ (เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษพูดถึงการ Add แบบ Import และ Add แบบทีละคน ส่วนเวอร์ชั่นภาษาไทย ไม่มีบอกอะไรเลย -_-) ที่มาของวิธีนี้ก็คือ ผมไปนึกถึงตอนส่งเมลหาหลายๆ คน ในช่อง To: มันมี Format แบบนี้ก็เลยลองดู ใช้ได้จริงๆ ล่วย เฮ้ !! V(OoO)V

17 มีนาคม 2554

154 | มีนาหนาวมาก !!

เริ่มพูดถึงเรื่อง Tsunami ที่ญี่ปุ่นก่อนครับ


ตอนที่ผมรู้เรื่องครั้งแรกคือ เมื่อวันศุกร์ตอนเที่ยงๆ ผมรู้สึกว่านอนไม่พอ เลยหาจังหวะแอบงีบที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะหลับก็เปิดดู sanook.com อ่านข่าวแป้ปนึง....ก็ไม่มีอะไรนะ ก็นอนไป

ประมาณบ่ายสาม ตื่นขึ้นมาเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก เห็น Notebook เปิดอยู่ก็ อืมๆ อ่านข่าวไรหน่อย พอเปิด sanook.com อีกที....อ่าวเฮ้ย Tsunami ???


ภาพวาดลายเส้นจาก INOUE TAKEHIKO ผู้เขียน Slam Dunk และ Vagabond ที่ทวีตออกมาในแท็ก #prayforjapan ขอให้ชาวญี่ปุ่นที่กำลังประสบภัยอยู่ในตอนนี้ จงสู้ต่อไปครับ !!!

ต่อมาในสัปดาห์นี้ชาวเมืองเราก็ประสบเหตุกันไปตามๆ กันนะครับ กับบรรยากาศฝนโปรยกระหน่ำที่เริ่มมาเมื่อวันก่อนแล้วก็ยิงยาวต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ยอมหยุดตกกันง่ายๆ แถมพาเอาลมหนาวแบบสุดขั้วหัวจิตหัวใจมาเป็นของแถมกันอีก อากาศตอนเที่ยงๆ นี่เย็นเฉียบยังกะอยู่บนยอดดอยปุย ไม่ต้องพูดถึงอากาศตอนกลางคืนที่หนาวสะท้านกันถึงขนาดต้องเรียกหาผ้าห่มเบียร์ช้างกันเลยทีเดียว !! นี่มันอาเพศอะไรกันฟะ !!??

จะต้องเล่าเท้าความไปถึงคืนวันอังคาร บรรยากาศก็ครึ้มๆ อยู่ตอนค่ำ ผมนั่งทำงานอยู่ที่ ม.คนเดียวทั้งตึก ตั้งใจว่าจะเอาให้เสร็จก่อนแล้วค่อยกลับแต่ก็ไม่อยากอยู่ดึกมากเพราะเริ่มไม่สบาย (เจ็บคอ) พอประมาณ 5 ทุ่มเสร็จงานกำลังจะกลับบ้าน อ้าว ! ฝนตก ตกปรอยๆ นะครับ ถ้าเป็นปกติผมก็ขี่มอไซค์ฝ่าฝนกลับไปแล้ว แต่วันนั้นไม่อยากเสี่ยงอาจจะล้มป่วยอย่างหนักได้ ก็เลยทำใจนั่งดู Youtube รอฝนหยุดต่อไป...

อาห์...เที่ยงคืนเข้าไปแล้ว ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ยังไงดีวะเนี่ยเรา << ขณะที่กำลังคิดแบบนี้อยู่ เหมือนฟ้าฝนจะเป็นใจกลัวจะกลับบ้านดึกพักผ่อนน้อย พรึบ อ้าว.. ไฟดับบบบบ

ดับสนิททั้งมหาลัยครับ มืดสนิทจริงๆ รอบตัวผมมีแค่แสงจากหน้าจอคอม และเสียง UPS ร้อง ปี๊ปๆๆๆๆ แค่นั้น ตอนนั้นก็คิดแล้วว่าเอ เอาไงดีวะชักกลัวๆ แต่จะกลับก็ไม่รู้จะกลับยังไง เลยออกมาหน้าห้องดูบรรยากาศหน่อยซิ แล้วค่อยวางแผนตัดสินใจอีกที

เปรี้ยงงงงง

เห็นแสงสีส้มวาบขึ้นบริเวณถนนหน้า ม. พร้อมเสียงดังสนั่นครับ พอแล้ว !! ไม่ดงไม่ดูไรแล้ว มีร่ม CAT คันนึงอยู่ในห้อง เอากางกันละอองฝนกลับบ้านก็ได้วะ มั้นใจแล้วว่ายังไงไฟมันไม่ติดภายในคืนนี้แหงๆ

สุดท้ายก็คือผมลองกางร่มขี่มอไซค์ออกมา แต่ไปได้ไม่เท่าไรครับเพราะว่าลมแรงมาก ร่มมันก็พลิกขึ้นอยู่นั่นเอง สุดท้ายก็ยอมหักใจว่า ช่างแม่-ง หุบร่มบิด 60 ฝ่าลมฝนกลับบ้านมันทั้งยังงั้นละวะ ถุยชีวิต 5555


ภาพข้างบนนี่คือสภาพวันรุ่งขึ้นครับ คือไฟฟ้ายังดับต่อเนื่องมาอีกทั้งวันจนมาติดเอา 3 ทุ่มโน่น สาเหตุสำคัญเลยก็คือเสาไฟฟ้ามันโค่นลงมาครับ แถมที่น่าตกใจคือโค่นลงมาทับศาลพระพรหมที่อยู่คู่มหาลัยมานาน พังซะอย่างที่เห็นในภาพ ศิษย์เก่าอย่างผมมาเห็นตอนแรกยังอึ้ง ถ่ายรูปมือสั่นเลยละครับ

จนถึงตอนนี้สายฝนและอากาศหนาวเย็นก็ยังไม่ยอมยุติลงง่ายๆ ปล่อยให้มนุษย์อ่อนแอผิวบางไขมันหนาอย่างเราต้องทนป่วยทนหนาวกันต่อไป ณ นาทีนี้บอกได้คำเดียวว่า โคตรเบื่อครับ อยากเห็นแดด !!!

19 กุมภาพันธ์ 2554

152 | ขอแพล่ม (อีก) ซักนิด

ตอนนี้กำลังฟังเพลงนี้อยู่


ไม่เกี่ยวกับความหมายนะ จริงๆ แล้วตอนนี้เบื่อเสียงเฮียแกแล้วด้วย (เสียงแม่งอ้อนๆ ไงไม่รู้ 55555) แต่เพลงนี้ทั้งเพลงชอบท่อนเดียว "เพลง...รักเก่า วันนี้ไม่ได้ทำให้ฉันเศร้า แต่ทำให้นึกถึงเรื่องของเรา...เหล่านั้น" คือรู้สึกว่าท่อนนี้มันร้องได้พอดีกับอารมณ์ของเพลงมากเลยง่ะ ถ้าเนื้อเพลงมันไม่เศร้านี่จะขอมาทำ Ringtone แล้วแหละ

ข้อสอบวิชา Distributed System and Network ออกไปได้ 20% แล้ว...มีแต่ Network อย่างเดียวเลย เพราะว่าเด็กๆ ต่อรองกันไว้แล้ว อีกอย่างเราก็ว่า DS มันยากจริงๆ ด้วยแหละ สอนไปก็เบื่อไป ตั้งใจว่าคืนนี้จะออกข้อสอบให้เสร็จทั้ง 4 วิชา ไม่รู้จะได้นอนกี่โมง

เมื่อกี้ว่าจะพูดถึง Twitter Client ตั้งแต่แรกที่เราใช้ Twitter มา ก็ทวีตผ่านหน้าเว็บมาตลอด จนมาใช้ echofon บน Firefox สักพัก พอเห็นกระแสเซเลบเขาเล่น Seesmic กันเลยเอามั่ง พอเห็น อจ.โอมเปลี่ยนมาใช้ TweetDeck ก็เลยเปลี่ยนอีก ไปๆ มาๆ กลับมาใช้ echofon เหมือนเดิมเพราะว่าไม่อยากเปลี่ยนหน้าจอไปมาบ่อยๆ (รำคาญ) ตอนนี้เปลี่ยนจาก Firefox มาใช้ Chrome ได้หลายเดือนละ ก็เห็นเด็กปี 4 ใช้ Yoono กันก็เออ เอามั่งวุ้ย สะดวกดีเหมือนกันไม่ต้องสลับหน้าจอไปมา จนมาถึงยุคของ Chrome Web App นี่แหละที่ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ Hootsuite แล้วก็ยังใช้มาจนถึง ณ บัดนาว


ตอนนี้ตาฉันคล้ำพอๆ กะแกแล้วว่ะ

ยอมรับว่า Hootsuite มันพอดีสำหรับเราจริงๆ ตอนนี้ใช้ทั้งใน PC แล้วก็มือถือ, iPod ด้วย.....ลืมเล่าเรื่องไปซื้อ iPod มา 5555555 เอาไว้คราวหน้า

พูดถึง Twitter Client ที่ใช้บนมือถือ (android) ก็มีหลายตัว อย่างตอนแรกใช้ Twitter for Android ตัว Official เลย ...แต่มันห่วยจนไม่เกิดประโยชน์จริงๆ เลยลบออก เปลี่ยนไปจนเจอ Twicca ตัวนี้ใช้นานอยู่ เห็นชื่อคนทำเหมือนจะเป็นญี่ปุ่น ชอบ Feature มันหลายอย่าง จนมาหลงกระแส Tweetdeck for Android ที่เปิดตัวซะครึกโครมเลยไปลองใช้ดูมั่ง แต่ก็ใช้ได้ไม่ทนจนกลับมาหา Twicca อีกจนได้ มาถึงล่าสุดตอนนี้ก็ใช้ Hootsuite ครับ อ่อ...พวก Uber~ อะไรพวกนี้ที่ชาว BB เขาใช้กัน (OS อื่นก็มี) ผมโคตรเกลียดเลยครับ

...4 ทุ่มครึ่งแล้วพี่น้องครับ มัวแต่เขียน Blog เล่นงานยังไปไม่ถึงไหนเลยครับ ดีนะยังห่าง Deadline อยู่บ้างไม่งั้นป่านนี้ไปนั่งร้องไห้หน้าห้องภาคแล้วครับ 5555555555555+

ตอนนี้ผมกำลังนึกข้อสอบไป เขียน Blog ไป ดูนู่นนี่นี่นั่นไป สลับไปสลับมา เลยพาลนึกถึงฉากแรกๆ ในเรื่อง The Social Network ที่ Mark กลับมานั่งทำนู่นนี่ไปพลางพร้อมกับเขียน Blog (อย่างรวดเร็ว) ไปพลาง


หลังจากกลับจากเดทกับแฟนในฉากนี้แล้ว (คุยกันโคตรไวแปลซับไม่ทันวุ้ย)

Mark ในหนังเขียน Blog ไวมาก แถมเขียนเป็น HTML มิได้ใช้ WYSIWYG แต่อย่างใด (ไม่รู้ว่ามันเวอร์ไปป่าวแต่คนจริงๆ ก็คงทำกันได้แหละ) อารมณ์ประมาณเขียน Microblog เลย ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงเป็นว่า Mark แกทวีตด่าแฟนแทนละมั้ง (แต่ละประโยคใน Blog ที่แกเขียนในหนังนี่คมๆ ทั้งนั้นเลย ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงโดน RT กันอีกเป็นหางว่าว)

เออ...เมื่อกี้พูดถึง android เลยยังไม่ได้บอกเลยว่าตอนนี้ก็ยังใช้ Spica อยู่นะครับ แต่รายละเอียดปลีกย่อยยังมีอีกเยอะ เดี๋ยว Swap ไปทำข้อสอบต่อก่อนดีกว่า ถ้ายังไม่หมดฤทธิ์จะมาแพล่มต่อไป ครับ !!

151 | ขอแพล่มซักนิด

เอิ่ม...ตอนนี้จริงๆ ผมกำลังออกข้อสอบปลายภาค 4 วิชาอยู่ครับ

แต่สงสัยจะวิ้งๆ แล้ว เริ่มเรียบเรียงข้อมูลในหัวไม่ถูกเลยคิดว่าน่าจะมาพิมพ์ๆ อะไรไว้บ้าง...

ปกติถ้ามีอาการแบบนี้ผมจะไปพ่นไว้ใน Twitter แต่วันนี้อยากมาพ่นใส่ Blog ที่ดองจนบูดนี้แหละ...ดองนานจริงๆ นะแบบว่าอีกสัก 10-20 ปีข้างหน้าถ้าลูกหลานมาอ่านนี่คงจะต่อเรื่องกันไม่ถูกเลยแหละว่า อ้าว มันหายไปไหนแล้วมันไปทำอะไรมาบ้างวะ เดือนนึงเขียนเรื่องนึง ทีเมื่อก่อนเขียนเดือนละเป็นสิบ 555555555+

ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีผมทำอะไรอยู่หรอครับ...ก็นึกข้อสอบที่จะออก (ถ้าเอาแบบละเอียดเลยก็คือวิชา Distributed System and Network) แล้วก็เปิด Youtube หาเพลงพี่เบิร์ดเก่าๆ ฟังไปด้วย ตอนแรกไม่ได้ซีเรียสว่าต้องเป็นพี่เบิร์ดหรอกครับ คือมีคนโพสต์เพลง "ใจบางบาง" ไว้ใน facebook แล้วพอไปฟังแล้วเกิดคิดถึงอารมณ์เพลงเก่าๆ ขึ้นมา (เพลงที่โพสต์นั่นเป็นเวอร์ชั่นโจ้วงพอสร้อง แต่ Original ไม่รู้ของใคร) แล้วจู่ๆ เนื้อเพลงที่มีอยู่ว่า "...ความหวังยังเกิดกับฉัน..." มันก็แวบมาในหัว

คือมันเป็นท่อนที่ติดตรึงในหัวมากครับ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นคำที่..เท่ แบบโบราณๆ ยังไงไม่รู้ดิ ...ที่คล้ายๆ กันก็อย่างเช่น "...ความจริงใจที่มีดั่งราตรีมีเพียงแสงจันทร์..." (ชาตรี), "...ฉันรู้ความรักยากอธิบายแต่ความรักจริงมั่นคงมิหน่าย..." (แกรนด์เอ็กซ์) สมัยนี้หายากแล้วนะครับเอ้อ เนื้อเพลงที่มีกลิ่นอายโบราณๆ แบบนี้ฟังแล้วมีเสน่ห์นักแล

สรุปว่านึกชื่อเพลงไม่ออกเลยไป Search จนเจอ มันคือเพลง "เหมือนเป็นคนอื่น" นั่นเอ๊ง



เก่าโคตรแต่เกิดทัน

เหลือข้อสอบอีกวิชานึงที่ยังไม่ได้ออกก็คือ Multimedia Technology ครับ เออวิชานี้ผมสั่ง Final Project ให้ไปเขียน Blog กับ blogger.com ด้วยนะ (เด็กสาขา ICT ปี 1) ตั้งโจทย์ให้สมัครแล้วเข้าไปเขียนทุกวันๆ ละอย่างน้อย 1 เรื่อง....ดูอาจารย์มันสิเคยเขียนมั่งเปล่า

ช่วงนี้มีเทคโนโลยีหลายอย่างที่เริ่มไม่ค่อยสนใจแล้วก็ตัดๆ ทิ่งออกไปบ้างละ อย่าง Picplz ที่สมัครไว้ ก็เห็นมีคนมา Follow หลายคนแล้ว แต่จริงๆ หลังจากสมัครแล้วก็อัพไปรูปเดียวแล้วก็ไม่ได้แตะมันอีกเลย...คือตอนแรกนึกว่าเหมือน Pixelpipe แต่ไม่ใช่นี่หว่า แถมพอให้ facebook ดึงมาแสดง กลับได้เป็นรูปเล็กๆ ซะอีก (จะดูรูปใหญ่ก็ต้องคลิกเข้าไปอีก) ยุ่งยากนักเลิกใช้แม่-มเลย

เคยคิดว่าพวกเซเลบที่เขาใช้ Social Network เยอะๆ นี่เขาบริหารเวลากันยังไงนะ อย่างบางคนเห็นทวีตทั้งวัน / อัพรูปทั้งวัน / Foursquare อีก / หรืออาจจะมีอย่างอื่นที่เราไม่รู้อีก ฯลฯ เขาเอาเวลาที่ไหนมาอัพเดทกันได้ขนาดนี้นะ เรานั่งทำงานหน้าเครื่องทั้งวัน (ยกเว้นตอนไปสอน) จะเปิด Twitter Client มาทวีตสักประโยคยังขี้เกียจเลย หรือเวลาออกไปข้างนอกแล้วเล่นผ่านมือถือ เต็มที่เราก็ได้แค่อัพรูป / Check-in แค่นั้น !!! เคยลองทวีต+อัพรูป+อื่นๆ ผ่านมือถือเวลามี Event หรือไปงานสำคัญๆ หน่อย ปรากฏว่าเวลาที่เราจะเอาไว้ฟังเขาพูดหรือร่วมกิจกรรมกะชาวบ้านเขา หมดไปกับการทวีตผ่าน Keyboard น้อยๆ ไปหมดแล่ว -_-"

จำได้ว่า @iannnnnn เคยบอกว่า Twitter เนี่ยมันก็ดีอย่างตรงที่เราสามารถฟัง-แล้วเอามาสังเคราะห์-แล้วส่งต่อได้ในเวลาอันสั้น แถมจำกัดความยาวไว้ที่ 140 ตัวอักษรด้วยนะ มันหมายความว่าเวลาเราฟังวิทยากรพูดยาวๆ สัก 1 นาที ถ้าเราจะทวีตเรื่องนั้นออกไปเราก็ต้องทำให้มันเข้าใจได้ใน 140 ตัวอักษรนั่นแหละเจ๋งเลย ผมลองทำๆ ดูแล้วมันก็ดีเหมือนกัน เหมือนกับว่ากระบวนการคิดและการสื่อสารเรามันดีขึ้น ฟังแล้วจับใจความแล้วพูดต่อได้โดยที่ไม่ได้แปลงสาร

แต่กระนั้นก็เหอะ...พวกสูทำกันไปได้ยังง๊ายยยยย ??? ถ้าวันนึงทำงาน 8 ชั่วโมง อาจจะตีเป็นเวลาทวีตไปซักวันละ 1 ชั่วโมง ซึ่งไอ้ 1 ชั่วโมงนี่มันก็ปนๆ กันอยู่ในเวลาทั้งวันของเรา แสดงว่าเราก็ต้อง ทำงานไป-ทวีตไป หรือถ้าเป็นวันหยุดหรือเวลาเลิกงานก็ดูทีวีไป-ทวีตไป / เดินห้างไป-ทวีตไป / คุยกะแฟนไป-ทวีตไป ....โอวววห์ ยอด

รู้สึกว่าเขียน Entry นี้มายาวไปหน่อยละ ขอสลับไปออกข้อสอบต่อดีกว่า ถ้าตื้อแล้วจะมาเขียนตอนต่อไปจ้ะ.

15 มกราคม 2554

150 | แอบปลื้ม (ภาค 2)

วันนี้อยากเขียน Blog ซะงั้นครับ 555555

คือเมื่อสัปดาห์ก่อนผมได้รับแผ่นพับงานตรุษจีนของปีนี้มาครับ

นั่งอ่านๆ ไปก็คิดถึงเรื่องเก่าขึ้นมาว่า เอ ปีนี้เขาจะเอารูปที่ไหนมาตกแต่งแผ่นพับนะ ก็เลยสังเกตรายละเอียดดู แล้วก็เจอจริงๆ ครับ !!



ด้านซ้ายคือของปีที่แล้ว ด้านขวาคือของปีนี้ครับ
(ขออภัยไม่ได้ถ่ายภาพแผ่นพับแบบเต็มๆ มาด้วย)

เผื่อผู้อ่านไม่เคลียร์ รูปสิงโตฮากกากับรูปเสือไหหลำด้านบนนี้ เป็นการถ่ายภาพด้วยสองมือของผมเองครับ ซึ่งได้ถ่ายไว้ด้วยกล้องคอมแพคยี่ห้อ Samsung อันแสนจะธรรมดา แล้วผมก็อัพขึ้น Blog ตามติดตรุษจีนนครสวรรค์ ปี 52 (เว็บนี้) โดยไม่ได้คิดจะใส่ลายน้ำหรือจะประกาศลิขสิทธิ์ใดๆ ซึ่งก็เป็นที่เหนือความคาดหมายเพราะมันได้ไปปรากฏอยู่ในแผ่นพับประชาสัมพันธ์งานตรุษจีนในปีต่อมา (ปี 53) !!??


มันไปได้อย่างไรก็ไม่ทราบได้ แต่ที่ผมฮาคือภาพมันก็ไม่ได้สวยคมอะไรมากมาย ทำไมเขาถึงเลือกใช้ภาพเหล่านี้ ? หรือว่าบังเอิญ Search ไปเจอเลยเอามากันง่ายๆ ซะงั้น ?? จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอะไรหรอกนะครับ (ออกจะภูมิใจด้วยซ้ำ) แต่อีกใจนึงก็นึกเป็นห่วงการทำงานของผู้รับผิดชอบว่า มันง่ายไปหรือเปล่า ?? ตรุษจีนปีนึงๆ แต่ละคืนคนมาเที่ยวงานกันเป็นพันนะครับ แถมคนพกกล้องก็มากมายถ่ายกันให้แวบวาบไปหมด มันจะหาภาพดีๆ มุมสวยๆ ความละเอียดกันสูงๆ เอามาใช้ในงานเป็นจริงเป็นจังกันไม่ได้เลยเชียวฤา ????

หนึ่งปีผ่านไป ทั้งกระแสกล้อง DSLR ทั้ง Multiply ทั้งกระแสจัดทริป ตั้งชมรม ฯลฯ มากมาย ผมก็คาดหวังว่า ทั้งแผ่นพับและป้ายคัตเอาท์ปีนี้ น่าจะมีภาพแบบสวยๆ มุมกล้องสุดแนว โลมงโลโมอะไรปรากฏขึ้นมาให้ชื่นใจวัยรุ่นบ้าง ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ผมและชาวปากน้ำโพวัยละอ่อนอีกมากมายคงดีใจกันไม่น้อย

แล้วมันก็กลับมาอีกครั้ง...

ที่เขียน Entry นี้ไม่ได้โชว์พาวหรือต้องการเครดิตอะไรนะครับ ยังคงแอบปลื้มเล็กๆ อยู่เช่นเคย 5555