หน้าเว็บ

22 ธันวาคม 2552

129 | คอนเสิร์ตพี่แอ๊ด



บัตรอะไรใบละสองแสนกว่า !!!!
มุกควายจากไอ้โอม 5555+

15 ธันวาคม 2552

128 | ศิวรักษ์



ไม่รู้จักได้ไงวะ คนเขารู้จักกันทั้งประเทศ...
5555+

12 ธันวาคม 2552

127 | กลอนจากวิดคอมรุ่น 31

...แด่ภาษาซี...ด้วยเกรดดี...
...กราบเรียนครูชยันต์ ที่กรองกลั่นภาษาซี
เนื้อหาวิชามี วันนี้เอามาเล่ากัน
....เดือนแรกที่เข้าเรียน อยู่ในช่วงที่เปลี่ยนผัน
สมองวุ่นวายพลัน เพราะฉันนั้นไม่เข้าใจ
....อาจารย์ก็แสนดี หาวิธีหลายหลากให้
พร้อมทำความเข้าใจ เพราะอยากให้ศิษย์ได้ทำ
...แต่โอ้ย...อยากจะบ้า เจอวิชาที่น่าขำ
เรียนไปก็ไม่จำ สอบกี่ครั้งมึนทุกที
...พี่เอที่น่ารัก เวลาพักน้อยเต็มที่
แต่พอเขียนภาษาซี ทำได้ดีบางอารมณ์
...พี่จรรองหัวหน้า ผู้วางท่าอย่างเหมาะสม
เงียบลึกและบาดคม เขียนการบ้านยังแทบตาย
...อีกคนที่อยากกล่าว ถึงแม้เขานั้นมาสาย
พี่โขงของเราไง เรียนๆไปใจรอนๆ
...หลายคนกล่าวไม่หมด ทุกคนจดจำครูสอน
บางวันไม่ได้นอน ทวนคำสอนที่เรียนมา
...เรียนไปยังมึนๆ จนไข้ขึ้นหลายองศา
ปวดหัวและแสบตา ก็เพราะว่าภาษาซี
...พอถึงวันที่สอบ หอบหนังสือมาเต็มที่
อ่านสัก 3 นาที ประจำที่นั่งหลับตา
...ข้อแรกก็แอบขำ รีบๆทำให้ผ่านตา
ท้ายๆยากหนักหนา อนิจจาต้องช่วยตน
...เปิดอ่านคำชี้แจง ถ้อยแถลงน่าฉงนท์
ฉันอยากจะเป็นลม เห็นข้อสอบจะบ้าตาย
...นั่งหลับสัก 10 วิ- นั่งคิดซิเรียนถึงไหน
อาเรย์ทำอย่างไร ลูป if for ไม่หวนคืน
.... print f ที่นึกได้ เขียนเข้าไปไหลไปลื่น
ก่อนส่งก็กล้ำกลืน ยังมึนๆตาก็ลาย
....พักผ่อน 1 สัปดาห์ ดื่มสุรานอนตื่นสาย
สอบเสร็จแสนสบาย ถึงเทอมใหม่ค่อยว่ากัน

ประพันธ์โดย กุหลาบหิน 21 ต.ค.52


-----------------------------------------


ขอบคุณคร้าบๆๆๆๆๆๆ

09 ธันวาคม 2552

126 | The King and My University

ช่วงวันพ่อนึกอยู่ว่าจะเขียน Blog เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ลืมไปได้ยังไงก็ไม่รู้ มานึกออกเอาวันนี้เลยต้องรีบเขียนก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวลืมอีกคงต้องรอเป็นวันพ่อปีหน้า 5555

ตอนที่ผมเข้าเรียนปี 1 ใหม่ๆ ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆ เพราะเรียนหนัก (ไม่มีพื้นฐานมาด้วย) แถมยังมีกิจกรรม สังคมใหม่ ฯลฯ หลายอย่าง แต่ที่หนักที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องเรียนนี่แหละครับ

ผมเป็นหนึ่งในหลายๆ คนในห้องที่เลือกเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์เพราะความตื้นเขินในประสบการณ์ของตัวเอง คือคิดว่า แค่ชอบเล่นคอมฯ ใช้โปรแกรมไอ้โน่นไอ้นี่เป็น ก็คงเรียนได้ไม่มีปัญหา แถมยังคิดไปว่าวิทยาการคอมพิวเตอร์เนี่ย เขาเรียนการใช้งาน พวก Word, Excel, PowerPoint อะไรพวกนั้นไปอีก...จนกระทั่งเริ่มเรียนจริงๆ แล้วต้องพบกับความตระหนกแบบคาดไม่ถึงครับ อะไรเนี่ย...Algorithm? เขียนโปรแกรม? ภาษา Pascal? ภาษาอังกฤษตูยังจะเอาตัวไม่รอด...อะไรอีกละ โครงสร้างข้อมูล? ...Stack, Link List, Heap, ฯลฯ โอ้วววว อะไรเนี่ย !!!!

รุ่นพี่บางคนเคยถามผมว่า จบมาจากไหน จบสายอะไรมา พอรู้ว่าผมไม่ได้จบสายวิทย์ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "โหจะไหวหรอน้อง เขาไทร์กันไปเยอะแล้วนะพวกจบไม่ตรงสายอะ" ...เหอะๆ ความมั่นใจลดฮวบ เราคงเลือกเรียนผิดเส้นทางจริงๆ แหละ เวลานั้นผมคิดแค่ว่า หมดเทอมเมื่อไรจะออกไปเตรียมเอ็นท์อีกรอบ จะซิ่ลก็ช่างแต่ตูไม่ไหวละ ขอไปเรียนท่องจำของถนัดเราดีกว่า...เรื่องนี้ไม่ได้บอกใครนะครับ พ่อกะแม่ก็ไม่รู้

มีอยู่วันหนึ่งมาเรียนตอนเช้า แต่ยังไม่ถึงเวลาเรียนและเพื่อนๆ ก็ยังไม่มา ผมก็เลยเดินเล่นอยู่แถวใต้ตึกเรียน สมัยนั้นใต้อาคาร 4 จะเป็นสำนักงานอธิการบดี และก็ห้องทำงานของอธิการบดี-รองอธิการฯ เรียงกันยาวตลอดชั้น 1 (แต่ภาคคอมฯ ที่ผมเรียนอยู่ชั้น 4) ผมเดินดูป้ายดูบอร์ดอะไรไปเรื่อย จนมาสะดุดกับบอร์ดนี้ครับ



รูปปัจจุบัน เป็นบอร์ดอะไรซักอย่าง อยู่ใกล้ๆ โรงเรียนชาวนา

ในบอร์ดปรากฏภาพเหล่านี้...



นั่นคือเหตุการณ์เมื่อครั้งที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ (สมัยยังเป็นสถาบันราชภัฏนครสวรรค์) ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาวิทยาศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม พ.ศ.2540 ถ้านับจากตอนผมเรียนปี 1 ก็คือ 4 ปีก่อนหน้านั้น
...ถ้านับจากวันนี้ก็ 12 ปีที่แล้วครับ



ฉลองพระองค์ครุย และปริญญาบัตรที่สถาบันราชภัฏนครสวรรค์ ทูลเกล้าฯ ถวาย

ส่วนสาขาวิชา (โปรแกรมวิชา) ที่ระบุไว้ในปริญญาบัตรที่ทูลเกล้าฯ ถวายในหลวง ผมอ่านแล้วขนลุกครับ



โปรแกรมวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์...

อ่านเสร็จผมก็ชะงักไปพักใหญ่ๆ
แล้วหลังจากนั้นผมก็เหมือนคิดอะไรได้ครับ ก็เปลี่ยนใจจากที่จะเลิกเรียนมาเอ็นท์ใหม่ มาตั้งใจเรียนให้หนักกว่าเดิม วิทย์คอมนี่แปลกครับยิ่งเรียนยิ่งยาก ยิ่งรู้ยิ่งโง่ ผมเผชิญความยากลำบากในช่วงเรียนมาอย่างหนักหน่วง ได้อาศัยเพื่อนๆ รุ่นพี่ๆ หลายคนช่วยกันประคองกันไปประคองกันมา จนถึงฝั่งในอีก 4 ปีครึ่งหลังจากนั้น...ผมก็เรียนจบจนได้ครับ

หลังจากเรียนจบใหม่ๆ เข้าทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ที่สำนักคอมฯ โต๊ะทำงานตัวแรกของผมเป็นโต๊ะเก่าของใครก็ไม่รู้ แต่ใต้แผ่นกระจกรองโต๊ะ มีกระดาษถ่ายเอกสารใบหนึ่งเสียบอยู่ นั่นคือใบนี้...



มันคือ สำเนาใบปริญญาบัตร ใบเดียวกับที่ทูลเกล้าฯ ถวายในหลวงเมื่อครั้งนั้นครับ ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนถ่ายเอกสารแล้วมาไว้ที่โต๊ะทำงานเขา แต่สุดท้ายแล้วผมก็ได้รับช่วงต่อ "กำลังใจ" อันนี้ต่อมาครับ

จนถึงวันนี้ เอกสารฉบับนี้ยังอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานผม
เป็นสิ่งที่สร้างความภูมิใจ และกำลังใจให้ผมในวันนี้ และต่อไป ในวิชาชีพนี้
ผมภูมิใจครับ ที่ได้เรียนในสาขาวิชานี้...
ผมภูมิใจครับ ที่ได้เรียน และได้ทำงาน ในสถานศึกษาที่มีชื่อแปลได้ว่า "คนของพระราชา" แห่งนี้

ผมขอส่งต่อความรู้สึกเหล่านี้ ไปถึงน้องๆ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยีสารสนเทศฯ ทุกคน
จงภูมิใจครับ.

06 ธันวาคม 2552

125 | #WeLoveKing

ปรากฏการณ์บน Twitter ที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ธันวา เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าจดจำครับ

ข้อความทวิตเตอร์ WeLoveKing อันดับ1โลกครั้งแรก

(ข่าวจาก sanook.com)

คนไทยออนไลน์แสดงให้โลกรับรู้ถึงพลังความรักในหลวง ดัน "WeLoveKing"ติดอันดับหนึ่งโลกในทวิตเตอร์ ขณะที่สื่อต่างชาติหลายสำนักต่างพากันรายงานข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยกในหลวงคือพลังแห่งเสถียรภาพตลอดช่วง 6 ทศวรรษที่อยู่ในราชบัลลังก์

สังคมคนไทยออนไลน์ทั่วโลกแสดงพลังความรัก สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผ่านทวิตเตอร์ โดยในเวลา 20.29 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2552 ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ สามารถทำให้คำว่า #WeLoveKing ขึ้นอันดับหนึ่งในโลกทวิตเตอร์ที่มีการพิมพ์และค้นหามากที่สุดในโลกเป็น ครั้งแรก มากกว่าคำว่า "คริสต์มาส" หลายช่วงตัว

ทั้งนี้เมื่อเวลา 19.29 น. วันที่ 5 ธันวาคม ช่วงเวลาจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล คนไทยทั่วโลกที่ใช้ทวิตเตอร์นับแสนคนได้ร่วมใจกันถวายพระพรพร้อมกันด้วยคำ ว่า"#WeLoveKing"จนกระทั่งในเวลา 20.29 น. คำว่า #WeLoveKing ได้ขึ้นอันดับหนึ่งบนทวิตเตอร์ ปรากฏอยู่ใน Trending Topics ซึ่งเป็นหมวดที่คนเข้าไปค้นหาและให้ความสนใจมากที่สุด ผ่านสายตาคนทั่วโลกที่ใช้ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊กรวมกันนับร้อยล้านคน

สำหรับ #WeLoveKing หมายถึง การที่มีคนสนใจที่จะเข้ามาถวายพระพรและแสดงความจงรักภักดี จะใช้ #WeLoveKing อยู่ในการส่งข้อความทวิต และในช่วงเวลานั้นมีผู้ใช้ทั่วโลกร่วมใจกันทวิตพร้อมๆ กันจำนวนนับแสนครั้ง ทั้งนี้ #nowplaying ซึ่งเป็นข้อความเกี่ยวกับเกมต่างๆ ซึ่งกลุ่มคนเล่นเกมทั่วโลกใช้สนทนาได้ตกเป็นอันดับสอง

ด้านสื่อต่างชาติต่างพากันรายงานข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม โดยได้หยิบยกพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รายงานไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเด็นที่มีพระราชกระแสรับสั่งว่า "ความสุข ความสวัสดี ของข้าพเจ้าเกิดขึ้นได้ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญ มั่นคง เป็นปกติสุข ความเจริญ"

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือพลังแห่งเสถียรภาพตลอดช่วง 6 ทศวรรษที่อยู่ในราชบัลลังก์

ด้านสำนักข่าวเอพีก็รายงานข่าวในทำนองเดียวกัน แต่เสริมว่า พสกนิกรจำนวนมากมาที่โรงพยาบาลศิริราชกันตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม เพื่อรอโอกาสที่จะได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันนี้ (5 ธ.ค.) โดยผู้คนมากมายสวมเสื้อสีชมพู ซึ่งเริ่มเป็นที่นิยมกันตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากที่มีการทำนายว่า สีชมพู เป็นสีที่ดีต่อพระพลานามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บางคนแม้ว่าจะมีวัยกว่า 80 ปีแล้ว ก็ยังอุตส่าห์เดินทางมาจากภาคอีสานของไทย เพื่อร่วมถวายพระพรชัยมงคล และบางคนก็ปฏิบัติเช่นนี้ทุกปี นานถึงกว่า 40 ปีแล้ว

สำนักข่าวเอพีรายงานด้วยว่า ในโอกาสเช่นนี้เป็นโอกาสให้คนไทยได้ปัดเอาความเห็นที่ขัดแย้งในทางการ เมืองออกไป และกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ซึ่งการแสดงถึงความสามัคคีแบบนี้เริ่มหาได้ยากตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

สำนักข่าวดีพีเอรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นเสาหลักสำคัญสำหรับเสถียรภาพทางการเมือง ระยะยาวของประเทศ และแม้พระองค์จะไม่มีอำนาจในการบริหาร แต่พระราชภารกิจด้านการพัฒนาที่ทรงปฏิบัติมาตลอด ทำให้พระองค์ทรงเป็นที่รักและเคารพของประชาชน และได้รับการยกย่องว่า ทรงเป็นผู้บุกเบิกปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่สหประชาชาติให้การยอมรับ ทั้งยังทรงมีบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ย ในยามที่การเมืองของไทยมีปัญหา สามารถนำความสงบกลับมาสู่ประเทศหลายต่อหลายครั้ง

ด้านสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯ ออกจากโรงพยาบาลเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นความหวังให้แก่คนไทยหลายล้านว่าพระองค์จะทรงหายจากพระอาการประชวร โดยเร็ว