หน้าเว็บ

06 ธันวาคม 2552

125 | #WeLoveKing

ปรากฏการณ์บน Twitter ที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ธันวา เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าจดจำครับ

ข้อความทวิตเตอร์ WeLoveKing อันดับ1โลกครั้งแรก

(ข่าวจาก sanook.com)

คนไทยออนไลน์แสดงให้โลกรับรู้ถึงพลังความรักในหลวง ดัน "WeLoveKing"ติดอันดับหนึ่งโลกในทวิตเตอร์ ขณะที่สื่อต่างชาติหลายสำนักต่างพากันรายงานข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยกในหลวงคือพลังแห่งเสถียรภาพตลอดช่วง 6 ทศวรรษที่อยู่ในราชบัลลังก์

สังคมคนไทยออนไลน์ทั่วโลกแสดงพลังความรัก สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผ่านทวิตเตอร์ โดยในเวลา 20.29 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2552 ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ สามารถทำให้คำว่า #WeLoveKing ขึ้นอันดับหนึ่งในโลกทวิตเตอร์ที่มีการพิมพ์และค้นหามากที่สุดในโลกเป็น ครั้งแรก มากกว่าคำว่า "คริสต์มาส" หลายช่วงตัว

ทั้งนี้เมื่อเวลา 19.29 น. วันที่ 5 ธันวาคม ช่วงเวลาจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล คนไทยทั่วโลกที่ใช้ทวิตเตอร์นับแสนคนได้ร่วมใจกันถวายพระพรพร้อมกันด้วยคำ ว่า"#WeLoveKing"จนกระทั่งในเวลา 20.29 น. คำว่า #WeLoveKing ได้ขึ้นอันดับหนึ่งบนทวิตเตอร์ ปรากฏอยู่ใน Trending Topics ซึ่งเป็นหมวดที่คนเข้าไปค้นหาและให้ความสนใจมากที่สุด ผ่านสายตาคนทั่วโลกที่ใช้ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊กรวมกันนับร้อยล้านคน

สำหรับ #WeLoveKing หมายถึง การที่มีคนสนใจที่จะเข้ามาถวายพระพรและแสดงความจงรักภักดี จะใช้ #WeLoveKing อยู่ในการส่งข้อความทวิต และในช่วงเวลานั้นมีผู้ใช้ทั่วโลกร่วมใจกันทวิตพร้อมๆ กันจำนวนนับแสนครั้ง ทั้งนี้ #nowplaying ซึ่งเป็นข้อความเกี่ยวกับเกมต่างๆ ซึ่งกลุ่มคนเล่นเกมทั่วโลกใช้สนทนาได้ตกเป็นอันดับสอง

ด้านสื่อต่างชาติต่างพากันรายงานข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม โดยได้หยิบยกพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รายงานไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเด็นที่มีพระราชกระแสรับสั่งว่า "ความสุข ความสวัสดี ของข้าพเจ้าเกิดขึ้นได้ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญ มั่นคง เป็นปกติสุข ความเจริญ"

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือพลังแห่งเสถียรภาพตลอดช่วง 6 ทศวรรษที่อยู่ในราชบัลลังก์

ด้านสำนักข่าวเอพีก็รายงานข่าวในทำนองเดียวกัน แต่เสริมว่า พสกนิกรจำนวนมากมาที่โรงพยาบาลศิริราชกันตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม เพื่อรอโอกาสที่จะได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันนี้ (5 ธ.ค.) โดยผู้คนมากมายสวมเสื้อสีชมพู ซึ่งเริ่มเป็นที่นิยมกันตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากที่มีการทำนายว่า สีชมพู เป็นสีที่ดีต่อพระพลานามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บางคนแม้ว่าจะมีวัยกว่า 80 ปีแล้ว ก็ยังอุตส่าห์เดินทางมาจากภาคอีสานของไทย เพื่อร่วมถวายพระพรชัยมงคล และบางคนก็ปฏิบัติเช่นนี้ทุกปี นานถึงกว่า 40 ปีแล้ว

สำนักข่าวเอพีรายงานด้วยว่า ในโอกาสเช่นนี้เป็นโอกาสให้คนไทยได้ปัดเอาความเห็นที่ขัดแย้งในทางการ เมืองออกไป และกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ซึ่งการแสดงถึงความสามัคคีแบบนี้เริ่มหาได้ยากตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

สำนักข่าวดีพีเอรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นเสาหลักสำคัญสำหรับเสถียรภาพทางการเมือง ระยะยาวของประเทศ และแม้พระองค์จะไม่มีอำนาจในการบริหาร แต่พระราชภารกิจด้านการพัฒนาที่ทรงปฏิบัติมาตลอด ทำให้พระองค์ทรงเป็นที่รักและเคารพของประชาชน และได้รับการยกย่องว่า ทรงเป็นผู้บุกเบิกปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่สหประชาชาติให้การยอมรับ ทั้งยังทรงมีบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ย ในยามที่การเมืองของไทยมีปัญหา สามารถนำความสงบกลับมาสู่ประเทศหลายต่อหลายครั้ง

ด้านสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯ ออกจากโรงพยาบาลเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นความหวังให้แก่คนไทยหลายล้านว่าพระองค์จะทรงหายจากพระอาการประชวร โดยเร็ว

ไม่มีความคิดเห็น: