หน้าเว็บ

31 ธันวาคม 2556

186 | สวัสดีปีใหม่

อีกชั่วโมงกว่าๆ ก็จะเข้าสู่ช่วง Countdown นับถอยหลังเข้าปี 2557 แล้วครับ

นึกถึงวันนี้เมื่อปีที่แล้ว ผมกำลังนั่งซดเบียร์อยู่กับไอ้เก๊ก ที่ร้านพี่ก๊อต Creative The Container นับถอยหลังพร้อมกับดูมหกรรมจุดพลุจากงานกีฬาข้ามปีที่หนองสมบูรณ์

วันเดียวกันเมื่อปีก่อน ผมก็ทำกิจกรรมเดิมแบบเดียวกับบรรทัดบนเป๊ะๆ

นับย้อนไปอีกสัก 2-3 ปี ผมกับพวกเพื่อนๆ เป็นอะไรที่มันส์ระยำสุดๆ ตระเวนดื่มทั่วจังหวัดจนมาหยุด Countdown กันในร้านคาราโอเกะ เมาแหลก สาวตรึม หมดตูดตั้งแต่ต้นปี ออกมาเห็นพระอาทิตย์ขึ้นอีกทีตอนเช้าโน่น

แต่ปีนี้ทำไม่ได้แล้วครับ ถ้าผมสามารถออกนอกบ้านไปทำกิจกรรมแบบเดิมๆ อย่างที่เล่ามาได้ บทความนี้ก็คงไม่ได้เกิดขึ้น ที่ปีนี้ผมจำต้องหยุดอยู่กับที่ เพราะว่าผลพวงมาจากอุบัติเหตุใหญ่ที่เกิดขึ้นกับผมเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ชีวิตผมต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจนถึงตอนนี้ครับ

นึกย้อนกลับไปตอนนั้น คืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 ซึ่งจริงๆ มันก็เข้าสู่วันที่ 1 มีนาคมแล้วละ

แค่ชั่วแว้บเดียว ผมกับพี่โหน่งที่มาด้วยกัน ก็ย้ายจากเบาะมอเตอร์ไซค์ไปนอนเหยียดอยู่บนพื้นถนนอย่างง่ายดาย...ถูกต้องครับ รถชน

จากภาพเหตุการณ์ที่จำได้คือ ตรงนั้นเป็นสี่แยก ผมมาทางหนึ่ง รถยนต์ก็มาทางแยกด้านขวาของผม และทั้งคู่เบรกไม่ทัน ก็เลยชนกันจังๆ กลางสี่แยกนั้นเองครับ ผมกับพี่โหน่งหล่นลงมานอนกับพื้น ส่วนรถมอเตอร์ไซต์กระเด็นไปอีกทางหนึ่ง

ผมมีสติตลอดเวลา พยายามจะลุกขึ้นมาถามสภาพรถที่ผมไปชน แต่คู่กรณีบอกให้ผมนอนเฉยๆ และโทรเรียกรถพยาบาลให้ อีกไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็โดนพันเฝือกที่ขาซ้ายและหามขึ้นเปลใส่รถกู้ภัยไปพร้อมกับพี่โหน่งที่โดนพันเฝือกที่แขนซ้ายเช่นกัน

หลังจากผ่านการเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาล ผมก็เข้ามานอนในห้อง ICU รอหมอที่จะมาตรวจในตอนเช้าและให้คำตอบผมว่า....กระดูกต้นขาซ้ายผม แตกกระจุยเลย


ภาพความหลอนในห้อง ICU ตอนเช้ามืด

ผมโดนผ่าตัดเล็กๆ ตอนบ่ายวันนั้น คือเจาะกระดูกหน้าแข้งของขาข้างซ้ายเล็กน้อยเพื่อเสียบเหล็กเข้าไป และเอาเหล็กอันนั้นแหละเป็นแกนถ่วงน้ำหนัก เพื่อไม่ให้ปวดทรมานมากระหว่างที่รอการตัดสินใจว่าจะผ่าตัดกระดูกที่หักเลยไหม (โรงพยาบาลที่กู้ภัยเอามาส่งเป็นโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งหมอก็เตือนแล้วว่าค่าผ่าตัดหลักแสนแน่ๆ) ได้นอนโรงพยาบาลนั้น 1 คืนและก็ตัดสินใจ Refer มาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านที่นครสวรรค์ในวันรุ่งขึ้นเพื่อให้ใกล้บ้านและลดค่าใช้จ่ายด้วย

จากประสบการณ์ในรถกู้ภัย มาถึงประสบการณ์ในห้อง ICU และห้องผ่าตัด ตอนนี้มาเป็นประสบการณ์ในรถพยาบาลที่พาเรานอนข้ามจังหวัดอีกครับ

ในที่สุดก็ได้มาผ่าตัดตรงจุดที่กระดูกแตกหักจริงๆ วันที่ 4 มีนาคมโน่นครับ


สภาพหลังผ่าตัดใหม่ๆ

อธิบายส่วนที่ผ่าง่ายๆ คือ กระดูกมันแตกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ หมอก็เอาสองส่วนนั้นต่อกันและดามด้วยแผ่นเหล็กขันน็อตยาวเกือบๆ เท่าต้นขา ส่วนที่แตกละเอียดเสียหายนั้นหมอต้องดูดทิ้งและเอาไขกระดูกเทียมโปะเข้าไปแทน ให้ไขกระดูกเทียมไปกระตุ้นร่างกายให้สร้างกระดูกใหม่มาให้เต็มเหมือนเดิม ประมาณนั้นครับ

ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรมาก แต่มันใช้เวลาในการรักษานานเหลือเชื่อครับ

จากตอนแรกที่หมอประเมินไว้ว่า 3 เดือนน่าจะหาย กลายเป็น 6 เดือน...9 เดือน และในเดือนที่ 10 ผลการเอ็กซเรย์ก็แสดงให้เห็นชัดเจนครับว่า กระดูกที่กำลังสร้างใหม่นั้น มันหยุดสร้างไปซะแล้ว

และในการตรวจครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้เอง ที่ผมได้รับข่าวดีจากหมอครับ

ผ่าใหม่ เอากระดูกบางส่วนจากที่อื่นมาเสริม เพื่อให้เกิดการกระตุ้นให้สร้างกระดูกเพิ่ม...




...และนี่คือสาเหตุที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2556 เป็นต้นมาครับ


ตอนแรกตั้งใจจะเขียนเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดในวันที่กลับมาเดินเหินได้เป็นปกติแล้ว แต่ ณ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน (และจะหายเป็นปกติได้ไหม) พอดีเห็นบรรยากาศช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่รอบๆ ตัวกำลังสนุกสนานคึกคัก ก็เลยนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้

เลยเอาเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตเรื่องนี้มาเขียนไว้เตือนสติตัวเองอีกครั้ง

สวัสดีปีใหม่ให้ตัวเองครับ :)

30 ธันวาคม 2556

185 | ย้อนอดีตเมืองปากน้ำโพ ณ แฟรี่แลนด์

คำนิยม
นับได้ว่าเป็นสุดยอดโครงการที่ทำขึ้นมาตอบสนองท้องถิ่นได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ !!!
ขอขอบคุณแฟรี่แลนด์สรรพสินค้ามากๆ ครับที่ได้ทำสิ่งที่มีค่าทางจิตใจและปัญญามากมายมหาศาลให้แก่ชาวปากน้ำโพทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ได้ซาบซึ้งกับความเป็นมาของบรรพบุรุษ ได้เรียนรู้แนวทางการสร้างเนื้อสร้างตัวของคนเก่าแก่จากไม่มีอะไรเลยจนประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ ขอขอบคุณมากจริงๆ ครับ !!!

ว่าแล้วก็ไปดูภาพความอดีตที่ผมเก็บรวบรวมมากันครับ


ป้ายร้านเก่าๆ ของจริงทั้งนั้น


สถานแพทย์


วิทยุโบราณ (บนหน้าปัดมีบอกสถานีเกือบทั่วโลก) กับถาดเบียร์ 


ร้านล่างสุดนี่อยู่แถวบ้าน ส่วนร้านบนสุดไปกินประจำ :)


แผ่นเสียง 


โต๊ะบอล (เขาเรียกว่าอะไรหว่า) อันนี้ไม่แปลกเท่าไรเพราะตอนวัยรุ่นเคยเล่น


ในร้านตัดผม สังเกตในตู้เป็นซองพวกยาเขียวขาแก้ไอแบบชง
(แล้วที่อยู่บนโต๊ะด้านหลัง เอามาจากวัดไหนรึเปล่า?)


ในร้านลิ้มกวงหยู ร้านประจำของที่บ้าน 


ลิ้มกวงหยูเหมือนกัน ชั้นพวกนี้คุ้นๆ เหมือนเคยเห็นตอนเด็กๆ


ปาล์มโอลีฟ ในร้านลิ้มกวงหยู 


โฆษณาน้ำอัดลม


ที่ชงชากาแฟแบบถุงๆ


เกล็ดทอง (ซองแดงริมสุด) เก็บมาได้ไง
เพิ่งรู้ว่า Johnie Walker ทำบุหรี่ Red ด้วย (ข้างล่าง)


กระป๋องโอวัลติน กับกระป๋องนมตราหมี พอใช้เสร็จก็เอาประป๋องมาใส่น้ำกิน
ร้านก๋วยเตี๋ยวบางร้านใช้ใส่ถุงสำหรับลูกค้าสั่งกลับบ้าน 


เครื่องทำน้ำแข็ง


ร้านขายยา เขากุยอันบนสุดเคยกินตอนเด็กประจำ ส่วนยาเขียวตราใบโพธิ์ทุกวันนี้ก็ยังกินอยู่


อันซ้ายคือเครื่องรีดผ้าม่ว


ลายกระเบื้องแบบนี้คุ้นตามากๆ แต่จำไม่ได้ว่าเคยเห็นที่ไห


นาฬิกาโคตรใหญ่


ปรอทโบราณ ตรงข้างล่างเอาไว้ใส่ปฏิทินแบบฉีก 


ของเล่นสังกะสี จริงๆ น่าจะเรียกว่าดีบุกมากกว่า (Tin Toy)
อันริมขวาคือเรือป๊อกแป๊ก จุดเทียนแล้ววิ่งบนน้ำ


กล่องไม้ขีดสารพัดแบรนด์ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นของแจกมากกว่า


วัตถุโบราณที่พบในละแวกนี้


กลอนของกวีแห่งรัตนโกสินทร์ 


หัวมังกร


ไหว้ส้มด้วย


ปรมาจารย์ (ต่อขาเชิดลูกแก้วเนี่ยนะ ทำได้ไง O_O!!!)


เสือไหหลำ และสิงโตกว๋องสิว


สิงโตกว๋องสิว สิงโตปักกิ่ง และเอ็งกอ


สิงโตทองฮากกา 


แผนที่ตลาด แถวหน้าศาลเจ้ายาวไปจนถึงสถานีรถไฟปากน้ำโพ


ตลาดใหม่ไหงมี 2 ที่ละครับ (ที่ถูกคืออันที่ 9 นะครับ เด็กตลาดใหม่คอนเฟิร์ม 5555)


ฟอสซิลที่พบแถวสะพานเดชาติวงศ์ (น่าจะเจอตอนเขาสร้างสะพานอะนะ)


รถสามล้อ เมื่อก่อนนั่งบ่อย ถ้าฝนตกมันจะมีผ้าพลาสติกม้วนลงมา 4 ด้านไว้กันฝนได้บ้างนิดหน่อ
ปัจจุบันโมส่วนจักรยานด้านหน้าเป็นเครื่องยนต์หมดแล้ว


นาฬิกาเก่ามาก (จนเข็มหายไป)


ที่บดยาในร้านขายยาจีน


ยาจีนที่เห็นนี่ส่วนน้อย ของจริงทุกร้านจะมียาเก็บในลิ้นชักสูงท่วมหัวเต็มกำแพงพรืด ส่วนตาชั่งข้างหน้านี่ขาดไม่ได้เลย 


แม่บอกสมัยก่อนอาเหล่าม่าก็มีตะกร้าแบบนี้


หีบแบบนี้ในหนังจีนมีบ่อย


ร้านโชห่วยแหงๆ


รู้จักกี่อย่างเนี่ย
โอโม่ (2 กล่องข้างหน้า) แฟซ่า (กล่องสีฟ้า) สบู่ไลฟ์บอยแถมแชมพูซันซิล (ข้างๆ แฟซ่า) ยาสีฟันดาร์กี้ (ปัจจุบันเป็นดาร์ลี่)
ที่เหลือไม่รู้จักเลย 


แม่โขง เก็บจนใส


ชิคเคล็ทส์ (ยังมีอยู่ป่าวหว่า) ที่เหลือทุกวันนี้ยังมีขายใน 7-11


รูปดาราสมัยก่อนทั้งนั้น


กล้องถายภาพจากร้านศรีศิลป์ ถ้าจำไม่ผิดสมัยก่อนเคยถ่ายรูปติดบัตรด้วยกล้องแนวๆ นี้แหละ คือตากล้องต้องคลุมผ้าเข้าไปถ่าย ถ่ายเสร็จก็ดึงกล่องอะไรสักอย่างออกมาด้านหน้า


กล้องโบราณ อันนี้ไม่รู้จัก


มีชุดครุยให้ลองด้วย อันนี้ชุดครุยวิทยาลัยครูแหงๆ


ทุกร้านมีเหล่าเต๊งด้วยนะ (แต่ขึ้นไปไม่ได้)

ก็ถือว่าเป็นโครงการที่ดีมากๆ ชื่นชมจากใจมากจริงๆ ครับ ใครยังไม่เคยไปดู (ยังมีอยู่ไหมหว่า 55555) ก็เชิญนะครับที่แฟรี่แลนด์สรรพสินค้า ชั้น 5 เดินเพลิน ถ่ายรูปเพลินครับ :)