หน้าเว็บ

17 กุมภาพันธ์ 2553

137 | แห่กลางคืนอันเงียบเหงา

ปีนี้รู้สึกว่างานไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไรครับ เมื่อคืนมีแห่กลางคืนก็เลยไปดูมาแวบเดียว ได้ภาพมาฝากนิดหน่อย



แถวหน้าบ้านผมมีปาโป่งเยอะมาก แล้วคนก็เล่นกันแน่นทุกวัน



ไปถึงแถวหน้าศรีไกรลาสก็เจอขบวนมังกรพอดี เฉี่ยวหน้าไปนิดเดียว (เกือบโดนด่า 5555)



มังกรไปขึ้นเสาที่แยกตรอกชุนหงษ์ครับ



พ่นไฟ จุดพลุกันเปรี้ยงปร้างตามท้องเรื่อง แต่ผมว่าปีนี้พลุน้อยไปอะ

วันนี้ก็มีแห่กลางวันครับ แต่ผมมาทำงาน ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะกลับไปดูดีหรือเปล่า

08 กุมภาพันธ์ 2553

136 | ยุคสมัยแห่งการติดต่อสื่อสารเปลี่ยนไป



เมื่อประมาณ 16 ปีก่อน...

ผมใช้เหรียญบาท หยอดตู้โทรศัพท์หน้าโรงเรียนกวดวิชา โทรเข้าเบอร์บ้านให้พ่อมารับ

เมื่อประมาณ 8 ปีก่อน...
ผมใช้โทรศัพท์มือถือ โทรจากประตูหลังบ้าน เข้าเบอร์บ้านให้พ่อลงมาเปิดประตูให้ เวลากลับดึก

เมื่อประมาณ 4 ปีก่อน...
ผมใช้โทรศัพท์มือถือ โทรจากประตูหลังบ้าน เข้าเบอร์โทรศัพท์มือถือพ่อ ให้พ่อลงมาเปิดประตูให้ เวลาเที่ยวดึก

เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน...
ผมใช้โทรศัพท์มือถือ ส่ง SMS เข้าเบอร์โทรศัพท์มือถือพ่อ เพื่อบอกหมายเลขบัญชีให้พ่อโอนเงินมาให้ยามฉุกเฉินเวลาไปเรียนโท

เมื่อประมาณ 1 ปีก่อน...
ผมใช้โทรศัพท์มือถือ ถ่ายภาพและส่ง MMS เข้าเบอร์โทรศัพท์มือถือพ่อ รายงานการเดินทางเวลาไปศึกษาดูงานต่างจังหวัด


วันนี้...
พ่อเกษียณอายุ นั่งเล่นเน็ตอยู่บ้าน ผมมีงานต้องรับผิดชอบมากขึ้น เข้างานเช้ากลับบ้านดึกทุกวัน จนพ่อแม่ลูกไม่ค่อยมีเวลาได้คุยกันเท่าไรนัก

...ไม่นึกว่าวันนึงจะได้มาคุยกันผ่าน twitter แบบนี้ ...โลกเราเปลี่ยนแปลงเร็วจริงๆ

02 กุมภาพันธ์ 2553

135 | บทความ Science.News พฤศจิกายน 2552

บทความที่เขียนลง Science.News จดหมายข่าวคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ฉบับเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2552

อันนี้เขียนเกี่ยวกับ Twitter เพราะช่วงนั้นกำลังบ้า Twitter กะ อจ.โอมครับ 5555+



ทำความรู้จักกับ twitter
ชยันต์ นันทวงศ์
สาขาวิชาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ

twitter เป็นบริการส่งข้อความผ่านเว็บลักษณะที่เรียกกันว่า “Micro-bloging” โดยรูปแบบจะเน้นการส่งข้อความแบบสั้น ไม่เกิน 140 ตัวอักษรในแต่ละครั้ง แต่สามารถส่งได้เรื่อยๆ ไม่จำกัดจำนวนครั้งในแต่ละวัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะบอกว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่ ณ ขณะนั้น เช่น “กำลังทานข้าวกลางวัน”, “กำลังเรียนหนังสือ” เป็นต้น

twitter สามารถเข้าถึงได้หลายช่องทาง เช่น จากเว็บไซต์หลัก (www.twitter.com) จากโทรศัพท์มือถือที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (http://m.twitter.com) หรือจากโปรแกรมจำพวก twitter client ที่ติดตั้งบน Windows อีกมากมาย เช่น Seesmic (www.seesmic.com) เป็นต้น ด้วยความสะดวกในการเข้าใช้นี้เอง ทำให้เราสามารถส่งข้อความ หรือที่เรียกกันว่า Tweet ได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

จุดสำคัญที่ทำให้ twitter มีประโยชน์มากกว่าการบันทึกชีวิตประจำวันก็คือ เราสามารถติดตาม (Following) คนอื่นๆ ที่ใช้ twitter เหมือนกันที่เราสนใจได้ เช่น บุคคลที่มีชื่อเสียง, ดารา, นักร้อง ฯลฯ เมื่อคนๆ นั้นอัพเดทข้อความใดขึ้น twitter เราก็จะได้รับข้อความนั้นๆ ไปพร้อมกันด้วย ในกรณีเดียวกันหากเรามีผู้มาติดตาม (Follower) เขาก็จะได้รับข้อความที่มีการอัพเดทจากเราเช่นกัน
แล้วการติดตามคนอื่น หรือให้คนอื่นมาติดตามเรานั้นมีประโยชน์อย่างไร ประโยชน์ของ twitter ในส่วนนี้ เป็นดังนี้ครับ

1. การแลกเปลี่ยนความสนใจ ความรู้ ประสบการณ์ ส่วนใหญ่คนที่เล่น twitter เวลาไปอ่านบทความที่น่าสนใจ หรือไปในสถานที่ที่มีกิจกรรมน่าสนใจ ก็มักจะนำมาเผยแพร่หรือบอกต่อใน twitter คนที่ติดตามก็จะได้รับข้อมูลส่วนนี้ และสามารถแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นได้ในทันที

2. ข่าวสาร เหตุการณ์สด มีตัวอย่างหลายครั้งที่ twitter ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรายงานสถานการณ์ รายงานเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น โดยผู้ใช้ twitter ที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือผู้ที่ได้รับข่าวสารก่อนใครก็สามารถที่จะบอกต่อให้คนอื่นๆ ใน twitter ได้รับรู้เช่นกัน ตัวอย่างที่เกิดขึ้นล่าสุดที่น่าสนใจคือ สุทธิชัย หยุ่น (@suthichai) สัมภาษณ์ นภจักษ์ อัตตนนท์ (@noppajak) นักข่าวเนชั่นที่เกาะติดสถานการณ์วิศวกรไทยโดนจับที่กัมพูชา เมื่อคืนวันที่ 14 พฤศจิกายน 2552 โดยคำถามที่ @suthichai สัมภาษณ์ @noppajak นั้นก็เป็นคำถามที่ได้รับมาจากผู้ที่ติดตาม @suthichai ณ ขณะนั้นอีกที เป็นต้น

3. เกิดสังคม กลุ่มเพื่อนใหม่ๆ เมื่อคนที่สนใจเรื่องเดียวกัน มาพูดคุยกันในเรื่องเดียวกัน แลกเปลี่ยนความรู้ความสนใจกัน สามารถก่อให้เกิดสังคมกลุ่มย่อยๆ ที่มีความสนใจเฉพาะด้านเดียวกันได้ นับว่า twitter เป็นเครื่องมือสื่อสารที่สามารถทำให้เราได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ได้จากหลากหลายสถานที่

4. ช่องทางแจ้งข่าว ประชาสัมพันธ์ ในปัจจุบันมีองค์กรหลายแห่งทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน รวมไปถึงบริษัทร้านค้า ที่ใช้ twitter ในการเผยแพร่ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการใหม่ๆ ซึ่งช่องทางดังกล่าวนอกจากจะทำให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้ที่สนใจจริงๆ (เพราะว่าติดตามเรา) แล้ว ยังเป็นวิธีการประชาสัมพันธ์ที่ประหยัดต้นทุนได้เป็นอย่างมากอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ร้านหนังสือนายอินทร์ (@naiin) ที่จะแจ้งข่าวสินค้าลดราคา หรือหนังสือออกใหม่ ผ่านทาง twitter เป็นประจำ เป็นต้น

จะเริ่มใช้ twitter ต้องทำอย่างไรบ้าง ?

1. สมัครสมาชิก ที่ www.twitter.com เมื่อสมัครแล้วจะได้รับ URL สำหรับเปิดดู tweet ของเราเอง คือ www.twitter.com/ชื่อผู้ใช้ ซึ่งชื่อผู้ใช้เราต้องตั้งเองครับ

2. เริ่มต้น Tweet หากไม่รู้จะ Tweet เรื่องอะไร ก็พิมพ์ไปเรื่อยๆ ครับ เช่น ทานข้าว, ดูหนัง, สอนหนังสือ, กำลังจะนอน ฯลฯ

3. ติดตาม (Follow) คนที่สนใจ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเราสนใจใคร หรือคนที่เราสนใจนั้นเขาใช้ twitter หรือเปล่า วิธีการที่ง่ายที่สุดคือ เข้าไปยังหน้า twitter ของใครก็ได้ที่เรารู้จัก แล้วดูรายชื่อคนที่เขาติดตาม หรือคนที่ติดตามเขา เพียงเท่านี้เราก็จะได้รู้จักคนอีกหลากหลายครับ ตามกันไปตามกันมาเดี๋ยวก็เจอ

4. มีคนติดตาม (Follower) เมื่อเราติดตามคนบ้าง และ Tweet บ่อยๆ นั่นหมายความว่าเราเริ่มมีตัวตนในวงการแล้ว อีกไม่นานก็จะมีคนมาเป็นผู้ติดตาม (Follower) เราเองครับ

หากสนใจก็ลองใช้ดูนะครับ หากมีข้อสงสัยประการใดสามารถ Tweet มาสอบถามได้ ที่ อ.ชยันต์ นันทวงศ์ (@sawanlunla) และ อ.เอกวิทย์ สิทธิวะ (@iamohm) ครับ ยินดีช่วยเหลือให้คำแนะนำทุกคำถามครับ อ้อ! เกือบลืมไปว่า คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเราก็มี twitter สำหรับแจ้งข่าวสารแล้วนะครับ ไปติดตามกันได้ที่ @scinsru ครับ.

134 | บทความ Science.News สิงหาคม 2552

บทความที่เขียนลง Science.News จดหมายข่าวคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ฉบับเดือนสิงหาคม พ.ศ.2552

งัดของเก่ามาอวดกันใหญ่ครับ เพื่อให้ Blog มันขยับบ้าง 55555+



ทำความรู้จักกับ Android

ชยันต์ นันทวงศ์
สาขาวิชาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ

ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ 3G ทั่วประเทศในระยะเวลาอันใกล้นี้จากผู้ให้บริการเครือข่ายทั้งสามเป็นเรื่องที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงนี้ การมาถึงของ 3G จะมีผลทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกิดความหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากความเร็วและขนาดของการส่งข้อมูลที่สูงขึ้นนั่นเอง และเมื่อมีการใช้เครือข่ายแบบ 3G เต็มรูปแบบเมื่อใด การเข้าสู่อินเตอร์เน็ตเพื่อเลือกใช้ Content จะกลายเป็นสิ่งปกติในชีวิตประจำวันของเราเลยทีเดียว ดังนั้นจึงสังเกตได้ว่า ณ เวลานี้ การแข่งขันระหว่างโทรศัพท์มือถือกำลังเป็นไปในแนวทางของการนำเสนอ “ความสะดวกสบาย” และ “ความง่าย” ในการใช้งานอินเตอร์เน็ตและการเข้าถึง Content ต่างๆ บนอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก และในบรรดาโทรศัพท์มือถือทีมีอยู่หลากหลายในปัจจุบัน มีบาง Platform ที่โดดเด่นขึ้นมาด้วยความน่าสนใจทั้งประสิทธิภาพและความนิยม เช่น Windows Mobile, Symbian, iPhone, BlackBerry และล่าสุดก็คือ Android ครับ

Andorid คืออะไร ?
“แอนดรอยด์ (Android) เป็นระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์มสำหรับโทรศัพท์มือถือ เริ่มต้นพัฒนาโดยบริษัทชื่อแอนดรอยด์ปัจจุบันพัฒนาโดยบริษัทกูเกิล ตัวซอฟต์แวร์ของแอนดรอยด์ได้พัฒนาต่อจากระบบปฏิบัติการลินุกซ์
แอนดรอยด์ได้เปิดตัวต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 โดยทางกูเกิลได้เปิดตัวพร้อมกับการประกาศก่อตั้ง Open Handset กลุ่มบริษัทฮาร์ดแวร์,ซอฟท์แวร์และการสื่อสาร 48 แห่ง ที่ร่วมมือกันเพื่อพัฒนา มาตราฐานเปิด สำหรับอุปกรณ์มือถือ ลิขสิทธิ์ของแพลตฟอร์มแอนดรอยด์นี้จะใช้ในลักษณะของซอฟต์แวร์เสรี” (อ้างอิงจาก http://th.wikipedia.org)

ทำไมต้อง Android ?
ที่ผู้คนให้ความสนใจกับ Android มากนั้นมาจากหลายองค์ประกอบ เช่น ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Google ผู้ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีแอพพลิเคชั่นบนอินเตอร์เน็ตที่โด่งดัง หรือด้วยความที่ Android เป็น Open Source จึงทำให้บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือหลายแห่ง เช่น HTC, Samsung, Motorola และอื่นๆ นำไปใช้เป็นระบบปฏิบัติการในโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ของตน และผลที่เกิดขึ้นก็คือเราจะได้เห็น Android ได้จากโทรศัพท์มือถือหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายราคา ต่างจากระบบปฏิบัติการแบบปิดที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือเฉพาะยี่ห้อ เช่น iPhone ของ Apple หรือ BlackBerry เป็นต้น

Android Market
แอพพลิเคชั่นที่อยู่ใน Android ก็จะคล้ายกับในโทรศัพท์มือถือ Smartphone ทั่วไป นอกจากนั้นยังมีแอพพลิเคชั่นแบบออนไลน์ซึ่งเป็นของ Google เอง เช่น GTalk, Gmail เป็นต้น หรือหากผู้ใช้ต้องการโปรแกรมใช้งานที่หลากหลายมากมายกว่านี้ Android ยังมี Android Market (www.android.com) ซึ่งเป็นแหล่ง Download โปรแกรมใช้งานของ Android จากผู้พัฒนาทั่วโลก โดยจะมีลักษณะคล้ายกับ App Store ของ iPhone หรือ Ovi Store ของ Nokia โปรแกรมใน Android จะมีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน (ซึ่งหาก Download โปรแกรมแบบเสียเงิน ผู้ใช้จะต้องมี Google Checkout เพื่อใช้กับบัตรเครดิตของเราเสียก่อน) และผู้พัฒนาโปรแกรมที่ต้องการขายโปรแกรมสามารถนำผลงานของตนขึ้นสู่ Android Market และตั้งราคาขายได้ และหากมีผู้ Download และจ่ายเงินสำหรับโปรแกรมนั้น ผู้พัฒนาจะได้รับส่วนแบ่ง 70% ของราคาที่ตั้งไว้ ในจุดนี้เองเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากสำหรับนักพัฒนาโปรแกรม เนื่องจากสามารถขายโปรแกรมได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องทำตลาดเองเลยด้วยซ้ำ

Android ในประเทศไทย
ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือที่ใช้ Android ที่มีวางขายในประเทศไทยนั้นมีอยู่ 1 รุ่นคือ HTC Magic ซึ่ง AIS เป็นผู้นำเข้ามาทำตลาด และในปลายเดือนสิงหาคมนี้จะเปิดตัวอีก 1 รุ่นคือ HTC Hero ในส่วนของ HTC Magic ณ วันที่เขียนบทความนี้ ราคาได้ลดลงมาอยู่ที่ 19,900 บาท (ลูกค้า AIS Serenade 18,900 บาท) ซึ่งถือว่าไม่แพงจนเกินไปหากเทียบกับประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นจาก AIS อีกมากมายสำหรับโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ หากสนใจลองศึกษาข้อมูลได้ที่ www.ais.co.th ครับ

แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับ Android
http://www.android.com
http://www.droidsans.com
http://www.thaiandroidclub.com

133 | บทความ Science.News มีนาคม 2552

บทความที่เขียนลง Science.News จดหมายข่าวคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ.2552

ต้นฉบับหาไฟล์ไม่เจอแล้วครับ แกะๆ เอาละกัน เขียนเรื่อง "ทำความรู้จักกับมาตรฐาน Open Document" โดยอาศัยข้อมูลส่วนใหญ่จาก Blog ของคุณ mk (http://www.isriya.com) และบางส่วนจาก Wikipedia ครับ

132 | Draft 'til Done : ไวนิลงานกีฬาคณาจารย์

ของเก่าครับ ไหนๆ ก็เขียนไปตอนนึงละ เกิดฮึดอยากเขียนเรื่องเก่าๆ บ้าง

Draft..





'til Done



งานกีฬาคณาจารย์มหาวิทยาลัยฯ เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมาครับ
ตัวงานออกแบบด้วยโปรแกรม Adobe Fireworks CS3 ส่วนภาพประกอบก็ Google ครับ 5555+

01 กุมภาพันธ์ 2553

131 | แอบปลื้ม

โอ้ววว ไม่ได้มาเขียน Blog นานมากจริงๆ ครับ เพราะว่าหมู่นี้ติด Update บน facebook ซะมาก เลยขี้เกียจเอามาเขียนลง Blog อีกที แต่วันนี้มีเรื่องปลื้มๆ มาเล่าให้อ่านกันครับ

เรื่องก็คือเมื่อวันก่อนผมได้รับแผ่นพับประชาสัมพันธ์งาน "เทศกาลตรุษจีนนครสวรรค์ 2553" มา พอเปิดอ่านดู แวบแรกที่เห็นก็สะดุดตาทันที เพราะว่าภาพถ่ายเกี่ยวกับงานตรุษจีนในแผ่นพับที่ว่าเนี่ย มันคุ้นๆ ตาอยู่ คุ้นมากๆ เลยทีเดียว



หน้าตาของแผ่นพับ



คลี่ข้างในออกมาจะเป็นเยี่ยงนี้ครับ

ปรากฏว่าเจ้าภาพที่ผมบอกว่าคุ้นๆ นั่นแหละครับ มันคือภาพที่ผมละคุณ joice ถ่ายจากกล้องดิจิตอลและกล้องมือถือเพื่อเอาไปเขียน Blog "ตามติด ตรุษจีนนครสวรรค์ 2552" (http://nsfest2009.blogspot.com) เมื่อปีที่ผ่านมานั้นเองครับ

ลองไปดูเปรียบเทียบภาพในแผ่นพับกับในเว็บกันครับ



ภาพนี้ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล samsung ธรรมดาๆ ครับ จำภาพนี้ได้แม่นที่สุดเพราะว่าแม่ของน้องคนที่อยู่ในภาพเข้ามาเม้นใน Hi5 ว่านั่นคือลูกสาวเค้า



นี่ก็ถ่ายต่อจากรูปเมื่อกี้ กล้องอันเดียวกันครับ



อันนี้เป็นภาพจากกล้อง canon ของคุณ joice ครับ



อันนี้ถ่ายจากกล้องมือถือ O2 Zinc ครับ



สุดท้ายกับภาพนี้ จากกล้อง samsung ครับ

ผมก็เล่าให้คุณ joice ฟังทันที สรุปว่าพวกเราฮาแตกครับ ที่บ้านก็ฮากัน เพราะไม่คิดว่าภาพจากกล้องดิจิตอล + กล้องมือถือธรรมดาๆ ที่บรรดานักถ่ายภาพมือเทพทั้งหลายมักจะดูแคลนว่าเอาไปใช้ถ่ายภาพเพื่อใช้งานจริงๆ จังๆ ไม่ได้เนี่ย โดนอินเตอร์เน็ตชุบตัวจนกลายเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ได้เหมือนกัน

(ก่อนหน้านี้ภาพที่ถ่ายจากกล้องมือถือ Nokia 6630 และเอาลง Blog ตามติดตรุษจีนนครสวรรค์ 2550 : http://nsfest.blogrevo.com ก็เคยถูกเว็บอื่นๆ เอาไปใช้เหมือนกัน ทั้งๆ ที่ภาพสุดจะเบลอ 55555+)

ที่มาเล่าให้ฟังอันนี้ไม่ใช่ว่าจะมาร้องเรียนหรือทวงสิทธิ์ในผลงานอะไรทำนองนั้นหรอกนะครับ (ออกจะปลื้มมากๆ เลยด้วยซ้ำที่ภาพที่เราถ่ายจะได้ไปปรากฏอยู่ในแผ่นพับประชาสัมพันธ์ของจังหวัด ที่จะได้ไปอยู่ในมือของนักท่องเที่ยวอีกเป็นพันเป็นหมื่นคน...โอ้ว) แต่ที่มาเขียนต่อยืดยาวนี่อีกประเด็นนึงครับ

ถ้าใครที่เคยอ่าน Blog หรือเห็นใน facebook ของผมจะสังเกตได้อย่างหนึ่งว่า ภาพทุกภาพที่ผมถ่ายแล้วเอามาลง หรือภาพที่ผมแต่งขึ้นด้วยโปรแกรมแต่งภาพเพื่อเอามาใช้ประกอบบทความ ผมไม่เคยใส่ลายน้ำ หรือใส่เครดิตใดๆ เลยแม้แต่ภาพเดียว ทั้งนี้เพราะผมไม่สนใจว่าใครจะมาเอางานนี้ไปทำอะไรต่อ ไม่สนใจว่าใครจะตีค่าภาพที่ผมถ่ายยังไงเลยด้วยซ้ำ มันคือความสนุกและเป็นงานอดิเรกของผมซึ่งไม่จำเป็นต้องตีค่าอะไรครับ

ผมเคยเห็นหลายๆ ประเด็นตามเว็บบอร์ดที่พูดคุยกันถึงเรื่องของการนำภาพถ่ายที่ถูกโพสต์ลงอินเตอร์เน็ตไปใช้ต่อโดยลบลายน้ำหรือเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของผลงานออก (ล่าสุดเพิ่งเห็นในพันทิปก็เล่นกันไปแล้ว : ## คดีตัวอย่าง ## สำหรับท่านที่โดนนำรูปไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และฝากถึงท่านที่กำลังคิดจะทำ...) แต่สำหรับผมมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญครับ อาจจะเป็นเพราะผมเชื่อในแนวคิด Open Source ก็เป็นได้ ผมเลยไม่สนใจว่าสิ่งที่ผมทำเพื่อเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตจะถูกใครนำไปใช้ทำอะไรต่อยังไง สมมติว่าวันหนึ่งมีคนนำ Article ที่ผมเขียนตามเว็บไปอ้างว่าเป็นผลงานตัวเอง ผมก็ไม่ซีเรียสครับ เพราะผมก็รู้อยู่ว่าผมเป็นคนเขียนเอง และถ้าผมจะทำงานเพื่อเอาเครดิตจริงๆ ผมไปทำในโลกจริงดีกว่าครับ ชัดเจนกว่าโลกเสมือนจริงเยอะ จริงมั้ย

ยังไงก็ตามผมเชื่อว่า ข้อมูลข่าวสารบนโลกอินเตอร์เน็ต ควรเป็นวิทยาทานครับ แต่อย่างว่าผมอาจจะเป็นคนเดียวที่คิดอะไรบ้าๆ แบบนี้ก็ได้มั้ง 555555555+