หน้าเว็บ

20 กุมภาพันธ์ 2552

055 | ลาแล้วลาที ปีซี้สี่

เมื่อวานไปงาน Bye'nior ของสาขาวิชาฯ มาครับ

เป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่เรียนปี 1 ที่มีโอกาสได้ไปร่วมงานนี้ แต่ถ้านับตั้งแต่เป็นอาจารย์แล้ว ปีนี้เป็นปีที่สองครับ เพราะปีที่ผ่านๆ มา งานจัดชนวันที่ผมไปเรียนต่อก็เลยพลาดซะหลายครั้งเลย

ปีนี้จัดที่ลานหน้าหอวัฒนธรรมครับ (ที่เดียวกับสมัยที่รุ่นผมเป็นแม่งานจัดตอนอยู่ปี 3) แต่ลักษณะงานต่างกันมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
1. อาหาร
พ.ศ.2546 :
รุ่นผมจ้างภัตตาคารหงษ์ฟ้า โดยมีเหตุผลจากคณาจารย์ว่า งาน Bye'noir เป็นงานสำคัญของสาขาฯ และเป็นงานกลางคืนซึ่งรูปแบบงานควรเป็นสากล เพราะฉะนั้นอาหารที่เลือกมาในงานจึงควรมีระดับ อีกอย่างคืองานจัดปีละครั้ง เราก็จะได้ทานอาหารหรูๆ ปีละครั้งซึ่งก็เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับฐานะของนักศึกษาอย่างเราๆ แต่ที่สำคัญคือราคา เพราะต้องเลือกเอาคอร์สที่ไม่เวอร์จนเกินตัว และพอที่จะจ่ายได้
พ.ศ.2552 :
จ้างร้านอะไรก็ไม่รู้ (จากที่ไหนก็ไม่รู้อีก) คุณภาพอาหารค่อนข้างน่าตกใจ (ผมตกใจตั้งแต่คุณภาพของโต๊ะแล้ว เพราะมันกรอบจนเกือบหัก) เฉพาะโต๊ะผมมีปลาราดพริกที่ไม่สุก, หมูผัดพริกที่เหมือนข้าวราดแกง และออเดิฟปอเปี๊ยะซึ่งบูดเสียแล้ว อาหารที่ปลอดภัยที่สุดคือปลาช่อนแป๊ะซะ เพราะมาในถาดร้อนๆ จุดแอลกอฮอล์เหลว
(ด้วยพิษปอเปี๊ยะบูด ทำให้ผมต้องขาดงานไำป 1 วันก็คือวันนี้เอง)



ขวามือของภาพคือปอเปี๊ยะ จำเลยของงานนี้

2. ความบันเทิงบนเวที
พ.ศ.2546 :
จ้างวงดนตรีของ นศ.สาขาดนตรีของมหาวิทยาลัยฯ ในราคาเป็นกันเอง (แถมโต๊ะจีนให้ด้วย) มีดนตรีสด + เครื่องไฟ + คาราโอเกะครบครัน
พ.ศ.2552
วงดนตรีจากที่ใดมิทราบได้ แต่ปัญหาที่พบคือเขาลองเครื่องไฟกับเครื่องเสียงบ่อยเหลือเกิน จนงานเริ่มแล้วเครื่องเสียงก็ยังไม่พร้อมเสียที แต่วงดนตรีของนักศึกษาในสาขาวิชาฯ เล่นดีมากๆ ครับ ชื่นชมเลย
(วงหนึ่งน่าจะเป็นปี 2 เพราะมีเด็กที่ผมสอนเล่นกีตาร์กับกลองอยู่ เล่นไม่ลื่นนักแต่เพลงโดนใจสุดๆ ส่วนอีกวงหนึ่งดูเหมือนจะเป็นเด็กปี 1 วงนี้เล่นเก่งเหลือร้าย แต่นักร้องนำดูเหมือนจะมีปัญหานิดหน่อย 555)

3. พิธีการ
พ.ศ.2546 :
มีการแสดงรำอวยพรของน้องๆ และการแสดงของน้องแต่ละชั้นปีให้ดูกัน คั่นด้วยพิธีการคือ หัวหน้าสาขาฯ กล่าวอวยพร, ประธานรุ่นปี 3 ที่จัดงานกล่าวอวยพรรุ่นพี่ และพิธีผูกข้อมือบายศรีสู่ขวัญ
พ.ศ.2552 :
มีการแสดงของน้องๆ แต่ละชั้นปี, วงดนตรีของน้องปี 2 และปี 1 และการแสดงของพี่ปี 4 ให้น้องๆ ดู (ที่กล่าวมาทั้งหมดดีมากๆ ครับ) คั่นด้วยพิธีการคือ ผูกข้อมือบายศรีสู่ขวัญ...ซึ่งตรงนี้แหละครับที่เปลี่ยนบรรยากาศของงานไปพอสมควร เพราะหมอทำขวัญทำพิธีนานมากๆๆๆๆๆ พิธีการเป็นสิ่งที่ดีครับแต่ถ้าใช้เวลานานเกินไปหรือยืดเยื้อเกินไปอาจทำให้ผู้มาร่วมงานเกิดความรู้สึกแปลกๆ เช่นผมเป็นต้น

ก็บ่นๆ ไปพอเป็นพิธีละครับ ในฐานะอาจารย์และรุ่นพี่ ก็หวังว่ารุ่นต่อๆ ไปจะเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในการรับผิดชอบงานสเกลใหญ่ และนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นครับ

เสร็จงานพิธีการก็อย่างว่าแหละครับ ไปต่อกันแน่นอน ซึ่งงานนี้ผมก็ไม่พลาดเช่นกัน (ตอนนั้นปอเปี๊ยะยังไม่ออกฤทธิ์) ตอนแรกตั้งใจว่าจะไป D แต่เพื่อนล้อคดันทำบัตรประชาชนหาย ไปยืมบัตรคุณ joice มาก็เข้าไม่ได้ เพราะเป็นบัตรเก่าซึ่งหมดอายุไปเป็นสิบปีแล้วอีก (กรำ) เลยเปลี่ยนใจไป in door กับน้องๆ ลูกศิษย์ IT ปี 4 ที่เคหะฯ ครับ



ดูเ้หมือนจะเมากันเยี่ยงสุนัขกันเลยทีเดียว
(ถอดเสื้อหาได้อนาจารไม่ เพราะห้องร้อนมากแถมเปิดประตูไม่ได้อีก เดี๋ยวห้องอื่นจะด่าว่าเสียงดัง)



เมาอะไรที่ไหน เห็นขวดบิ๊กเจกับเป๊ปซี่มั้ยครับ (ระหว่างสองขวดนี้มีอะไรซ่อนอยู่ ???)

ก็เฮฮากันตามประสาเด็กคอมฯ ละครับ กว่างานเลี้ยงจะเลิกราก็เกือบตี 3 ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ปอเปี๊ยะก็แผลงฤทธิ์จนสิ้นท่า มาฟื้นแรงเอาตอนบ่ายสองของวันนี้เลยละครับ 55555

...

สุดท้ายของ Entry ขออวยพรให้นักศึกษาที่กำลังจะเป็นบัณฑิตทุกคน จงเร่งทำโปรเจ็คให้เสร็จเร็วๆ จบไปก็ขอให้ได้งานดีๆ ทำเร็วๆ และประสบความสำเร็จในอนาคตทุกคนครับ.

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อ่ะนะ เลือกรูปที่สวยๆหน่อยก็ไม่ได้

ปอเปี๊ยะทำพิษ รึว่า...ทำจนหมดแรง งุงิ