หน้าเว็บ

16 มิถุนายน 2552

095 | Facebook Style สังเกตการใช้งาน Facebook ของคนทั่วไป

วันนี้มาเขียนบทความแบบแปลกๆ บ้างครับหลังจากที่เอาแต่ Review Application มาซะนาน
เรื่องของเรื่องก็คือ ผมลองสังเกต Style การใช้งานของผู้ใช้ Facebook รอบๆ ตัวแล้ว พบว่า มีรูปแบบที่แตกต่างกันมากมาย เช่น การกรอกข้อมูล การกำหนด Policy ต่างๆ ซึ่งอย่างที่เราพอรู้กันมาบ้างแล้วว่า Facebook เป็น Online Social Network ที่ค่อนข้างออกแนวจริงจังพอสมควร คือเน้นการให้ข้อมูลที่เป็นตัวตนจริงๆ และการกำหนดขอบเขตการเข้าดูข้อมูลจากเพื่อนๆ
ดังนั้นผมเลยลองสรุปดูว่า ผู้ใช้ Facebook แบบทั่วๆ ไปเนี่ยเขามี Style ในการใช้งานอย่างไรบ้าง อาจจะผิดๆ ถูกๆ บ้างก็ลองอ่านดูนะครับ

1. การใช้ชื่อ-นามสกุลจริงใน Profile

ปกติแล้วคนที่ใช้ Facebook จะอยู่ในกลุ่มที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยไปจนถึงวัยทำงาน (อ้างอิงจากบทความเกี่ยวกับ Facebook ในหนังสือหลายๆ เล่มครับ) ดังนั้นการใช้งานจึงค่อนข้างจริงจังอยู่ อย่างน้อยๆ การใช้ชื่อจริง นามสกุลจริงใน Profile ก็จะช่วยให้รู้สึกว่า ผู้ใช้คนนี้มี Facebook ไว้เพื่อใช้ประโยชน์จริงๆ มากกว่าจะเปิดไว้เล่นๆ ครับ

ยกตัวอย่างจากตัวผมเอง เมื่อก่อนเวลาเล่น Hi5 เจอใคร Add มาก็รับหมด ตอนแรกๆ ก็พอรู้ตัวตนบ้างว่าใครเป็นใคร แต่พอ Friend List เยอะขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นว่าคนที่ผมรู้จักจริงๆ ในนั้นมีอยู่น้อยมากๆ (เหมือนกับที่มีคนเคยพูดถึงการใช้งาน Online Social Network ของคนไทยว่าเน้นสถิติเป็นหลัก เช่น จำนวนเพื่อน จำนวน Comment เป็นต้น) พอเล่นไปนานๆ ก็รู้สึกว่ามันไร้สาระเสียเหลือเกินครับ



ตัวอย่างการตั้งชื่อใน Hi5 ครับ พอจะรู้ไหมว่าใครเป็นใคร ?

ดังนั้นพอมาใช้ Facebook ผมก็เลยค่อนข้างเลือกนิดนึงครับเพราะไม่อยากไป Add คนที่ไม่รู้จัก (นอกจากว่าอยากทำความรู้จักจริงๆ) อันดับแรกผมดูที่ชื่อก่อนครับ ถ้าเป็นชื่อคนรู้จักก็ Add เลยไม่มีปัญหา แต่ถ้าชื่อไม่รู้จัก หรือชื่อแปลกๆ เช่น มันทิ้งกรู, Hana Jung, ความรักคืออะราย ฯลฯ (มั่วเอานะครับ) ผมไม่กล้ารับ Add ครับ เพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร และเขามาใช้ Facebook และ Add เราเพื่ออะไร

2. การใช้ภาพตัวเองใน Profile Picture

ส่วนใหญ่เวลาดู Facebook ของฝรั่งเขาจะใช้รูปตัวเองเป็น Profile Picture นะครับ ผมคิดว่าคงไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเอารูปคนอื่น หรือรูปอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องเลย (เช่นรูปการ์ตูน) มาให้คนที่ต้องการรู้ว่าเราเป็นใครได้เห็น ซึ่ง Style การเอารูปอื่นมาใส่เป็น Profile Picture เนี่ยมันมีมานานแล้วครับ เอาแค่สมัย MSN ก็ได้ แล้วที่มาเยอะๆ กันจริงๆ เลยก็คงเป็น Hi5 นี่แหละครับ (แต่ช่วงหลังนี้คนใช้ Hi5 เอารูปตัวเองขึ้นก็เยอะนะครับ โดยเฉพาะสาวๆ แบ๊วๆ :o ) การนำรูปตัวเองใส่ Profile Picture มันก็ดีตรงความน่าเชื่อถืออีกนั่นแหละครับ



ลองดู Profile Picture ของคนที่มีตัวตนจริงๆ กับคนที่ไม่เห็นหน้าตาจริงๆ สิครับ แล้วลองเปรียบเทียบความรู้สึกดู

3. การให้ข้อมูลทั่วไป

บางคนอาจเห็นว่าเป็นเรื่องของ Policy ที่บางทีก็ไม่อยากให้คนทั่วๆ ไปมาดู Information ของเราได้ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคนครับ แต่ทุกวันนี้ผมสังเกตจาก Friend List ของเพื่อนๆ ผมที่ Add ไว้ ผมพบว่าส่วนใหญ่ไม่นิยมปิดบัง Information ครับ บางคนเปิดเผยทุกอย่างในชีวิตตั้งแต่วันเดือนปีเกิด, สถานศึกษา, ประวัติการทำงาน ฯลฯ แบบนี้ก็มี อย่างนี้หมายความว่าอย่างไรครับ หมายความว่าพวกเขาไม่ให้ความสำคัญกับ Policy หรือ ?

ผมคิดว่าคงไม่หรอกครับ เพราะเท่าที่สังเกตดู พวกข้อมูลที่ Facebook ให้กรอก เช่น Basic Information, Education and Work และ Contact Information ข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องปิดบัง "อย่างยิ่ง" เลย (ยกเว้นในกรณีที่ต้องการความเป็นส่วนตัว คุณก็เลือกที่จะกรอกหรือไม่ก็ได้ หรือจะกำหนด Policy ก็ได้อีก) ในอีกทางหนึ่งผมว่ามันให้ผลดีเสียอีก ในแง่ที่ทำให้เรารู้จักคนๆ นั้นมากขึ้น นอกเหนือจากชื่อและหน้าตาของเขา

ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ผมมี Friend Suggestion ที่ระบบจะหามาให้ดูว่าผมอาจจะรู้จักคนเหล่านี้ บางคนระบบก็จะบอกให้ว่า เขาจบที่เดียวกับคุณ, เขาเคยทำงานที่เดียวกับคุณ อะไรประมาณนี้ แต่บางคนก็ไม่ได้บอกเลยว่า Suggestion มาได้ยังไง ในกรณีนี้ผมก็จะไปดู Information ของเขาครับ และมันก็ทำให้ผมรู้จักคนๆ นั้นมากขึ้น ได้รู้ว่าเขา "น่าจะ" เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร (ผมเจอรายชื่อลูกศิษย์ผมใน Friend Suggestion ประจำ โดยที่ตอนแรกผมจำชื่อไม่ได้, จำหน้าไม่ค่อยได้ แต่พอดู Information แล้วถึงรู้ว่าเป็นใคร :P )



ตัวอย่าง Information ที่เปิดเผยสุดๆ ของผู้ใช้คนหนึ่งที่ผมบังเอิญไปเจอ

เท่าที่เห็นชัดสุดๆ ตอนนี้ก็คงมีประมาณนี้แหละครับ (ถ้ามีอีกเดี๋ยวก็คงมาเขียนต่อ 5555+)
สุดท้ายก็อยากจะขอรณรงค์ว่า เรามาใช้ชื่อจริง-ภาพจริงใน Facebook กันดีกว่านะครับ ตัวตนของเรา ถ้าในโลกแห่งความเป็นจริงเราเปิดเผยได้ ในโลกของ Facebook ก็ไม่มีอะไรน่าอายครับ
บทความต่อไปจะมาเขียนถึงพฤติกรรมเด็กไทยใน Hi5 ที่ระบาดมาถึง Facebook ครับ



(เผยแพร่ครั้งแรกใน http://www.thaifacebook.in.th เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2552 : อ้างอิง)

ไม่มีความคิดเห็น: